"สุเทพ เทือกสุบรรณ" พร้อมแกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากชาวพิษณุโลก ยืนยันช่ไม่ลงส.ส.-ไม่รับตำแหน่งใดๆ หากพรรคได้ร่วมรัฐบาล
วันที่ 20 ก.ย.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมคณะ อาทิ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ดร.จักษ์ พันธุ์ชูเพชร นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายสำราญ รอดเพชร รวมทั้งทีมกฏหมายของพรรคได้ลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก
โดยในช่วงเช้านายสุเทพ ได้เดินทางไปในพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เพื่อฟังปัญหาการของกลุ่มผู้พิการ ปัญหาการเกษตร ปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับเงินฌาปนกิจ หลังจากกลุ่มประชาภิวัฒน์ พิษณุโลก เชิญมาร่วมพูดคุยที่โรงแรมเทพนคร อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ถือเป็นกลุ่มที่เคยเคลื่อนไหวกับกำนันสุเทพหรือ”กกปส.”พิษณุโลก ประมาณ 200 คน
ทั้งนี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากนายสุเทพ ได้ลงเครื่องที่ จ.พิษณุโลกได้เดินทางไปในพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เพื่อฟังปัญหาของกลุ่มผู้พิการ การร้องเรียนการโกงเงินฌาปนกิจศพ กระทั่งช่วงบ่ายเวลาประมาณ 13.30 นายสุเทพ ทักทาย ผู้ร่วมพบปะ และเปิดโอกาสให้ประชาชนซักถามปัญหาต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง
นายทรงวุฒิ เชื้อนุ่ม หนึ่งในว่าที่ผู้จะสมัคร ส.ส.เขต 1 พิษณุโลก เปิดเผยว่า นายสุเทพและผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย เดินทางมา จ.พิษณุโลก แห่งแรกตามคำเชิญของกลุ่มประชาภิวัฒน์ เพื่อมารับฟังปัญหาของประชาชน จากนั้น นายสุเทพ ก็นำข้อมูลกลับไปเขียนเป็นนโยบายพรรค พร้อมกับเชิญชวนประชาชนทั่วไป ให้สมัครเป็นสมาชิกพรรค ส่วนการวางตัวว่า ใครเป็นผู้สมัครเขตไหน ยังไม่ถึงเวลา จะต้องมีการประชุมที่พรรคกันอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่ผ่านมา พบรถกระบะประชาสัมพันธ์เป็นรถติดป้ายเชิญชวนการรับฟังและแสดงความคิดเห็นและทำนโยบายพรรคพรรครวมพลังประชาชาติไทย แต่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายความมั่นคง กองทัพภาคที่ 3 ขอร้อง ห้ามไว้ ไม่ให้เคลื่อนไหวแห่ป้ายหาเสียง แต่ไม่ได้สั่งห้ามการแสดงความคิดเห็นในวันนี้ แต่ก็มีหน่วยทหารเข้าสังเกตการณ์วันนี้ เหตุการณ์ทั่วไปปกติ
โดยคณะของนายสุเทพ ได้ใช้เวลารับฟังปัญหาจากชาวพิษณุโลกประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้น นายสุเทพ ได้พูดคุยและตอบข้อซักถามจากประชาชนรายหนึ่ง ที่ลุกขึ้นถามกลางเวทีว่า จะไม่เล่นการเมืองแล้วทำไมมาร่วมกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย นายสุเทพ ตอบว่า “พรรคที่จัดตั้งขึ้นมานี้ผมจะไม่เป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่รับตำแหน่งในพรรค ผมจะไม่ลงรับสมัครรับเลือกตั้ง ผมเป็นผู้แทนมา 37 ปี ผมชนะตลอด จะไม่ลงส.ส.เขต ไม่ลงส.ส.บัญชีรายชื่อ และถ้าพรรคได้เป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ซึ่งกระซิบตรงนี้เลยได้เป็นแน่นอน ผมจะไม่รับตำแหน่งบริหารใด ๆ ของรัฐบาล”