'สิระ' แจงถกกลุ่มสามมิตร เรื่องประโยชน์ประเทศ ไม่มีดีลการเมือง

'สิระ' แจงถกกลุ่มสามมิตร เรื่องประโยชน์ประเทศ ไม่มีดีลการเมือง

“สิระ” ถกกลุ่มสามมิตร ยันเรื่องประโยชน์ประเทศ ไม่มีเรื่องส่วนตัว แจงแค่คุยเรื่องใช้สถานที่ ไม่มีดีลการเมือง

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายสิระ เจนจาคะ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และเจ้งของ บ้านทรงไทยแจ้งวัฒนะ กล่าวในรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ถึงการพูดคุยกับนายภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย และเลขากลุ่มสามมิตร เมื่อวานที่ผ่านมาว่า เบื้องต้นเป็นการคุยกันว่า จะทำอย่างให้ไรให้ประเทศจะเดินข้างหน้าโดยไม่แบ่งสีแบ่งฝ่ายได้ ซึ่งเราจึงต้องทำงานร่วมกันไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม โดยหลังจากนี้จะไม่มีฝ่ายแล้ว ประเทศบอบช้ำมากพอแล้ว ทุกคนคือคนไทย ซึ่งไม่ว่าสีเสื้อไหนที่โดนคดีความ หรือโดนหลอกใช้ ในเร็ววันนี้จะมีการเลือกตั้ง ก็จะได้ ส.ส. จากการเลือกตั้ง แต่อย่างแรกคือจะต้องไม่มีสีเสื้อก่อน

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการหลอกใช้ประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ นายสิระกล่าวว่า ตนได้ใตร่ตรองแล้วไม่มีใครหลอกใช้ใครได้ หากมาคุยแล้วไม่ทำตามข้อตกลง ก็เดินหน้าร่วมกันไม่ได้ เพราะไม่ได้มีพันธะ หรือว่าผลประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งตนไม่ได้ขออะไรเพื่อตัวเองเป็นการส่วนตัว ถ้าไม่ทำเพื่อประเทศชาติก็ต้องขอตัว ทั้งนี้ส่วนตัวยังเคารพรักอดีตพระพุทธอิสระ แต่การร่วมงานกับกลุ่มสามมิตร ตนคาดว่ามีอะไรท่านก็ต้องเชียร์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่แล้ว ดูภายนอกการร่วมงานกับกลุ่มสามมิตรเป็นเรื่องผลประโยชน์ แต่จากการพูดคุยเมื่อวาน (19 ก.ค.) นั้น ตนยืนยันว่าไม่มีการหยิบยื่นผลประโยชน์ ตำแหน่ง หรือการต่อรองบำเหน็จหลังการเลือกตั้ง แต่ถ้าร่วมงานกันไม่ว่าจะ 7 วัน หรือ 1 เดือน ก็ตาม ถ้ามีเรื่องผลประโยชน์เข้ามา ตนก็ต้องขอถอนตัว

เมื่อถามถึงข้อตกลงที่พูดคุยกับกลุ่มสามมิตร นายสิระ กล่าวว่า ที่คุยกันเบื้องต้น จะมีการใช้บ้านทรงไทยที่แจ้งวัฒนะ เป็นสำนักงานของกลุ่มสามมิตร และเป็นศูนย์บัญชาการของพรรคพลังประชารัฐด้วย ซึ่งมีสถานที่รองรับคนมากถึง 4 ไร่ แต่ถ้ามีการประชุมใหญ่เป็นหลักพันคน ก็เห็นว่าจะมีการใช้สถานที่อิมแพคเมืองทองธานี เมื่อวานจึงเป็นแค่เป็นการขอใช้สถานที่อย่างเดียว เป็นการประเดิมชัยในทางการเมือง ซึ่งส่วนตัวยังไม่ได้คุยกันว่า ตนจะลง ส.ส. หรือไม่ และยังไม่มีข้อตกลงทางการเมือง ทั้งนี้ภายหลังที่ตนกลับมาจากภารกิที่ต่างประเทศ ก็จะมีการพูดคุยกันอีกรอบหนึ่ง เรื่องการวางจุดยุทธศาสตร์ แต่ไม่ขอก้าวล่วงรายละเอียด เพราะเรื่องนี้จะมีผู้ใหญ่เป็นผู้ตัดสินใจ