2ตัวแทนศาลฎีกา มีสิทธิคืนเวทีสนช. โหวตเป็น 'กกต.' ได้

2ตัวแทนศาลฎีกา มีสิทธิคืนเวทีสนช. โหวตเป็น 'กกต.' ได้

ประธาน กรธ. แจงข้อกฎหมาย ชี้ 2 ตัวแทนจากศาลฎีกา มีสิทธิคืนเวที สนช. โหวตเป็น "กกต." ได้ แต่ไร้หลักประกันจะถูกเห็นชอบ

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการสรรหาและคัดเลือกบุคคลที่จะเข้ารับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 7 คน เพื่อให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติใหม่อีกครั้งว่า กระบวนการดังกล่าวยังคงให้สิทธิ์ ผู้ที่ได้รับคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกากลับเข้ารับการเสนอชื่อให้ สนช. ลงมติเห็นชอบได้อีกครั้ง เพราะมาตรา 12 วรรคเจ็ด ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยกกต. พ.ศ.2560 นั้นไม่ได้ห้ามบุคคลที่มาจากการคัดเลือก คือ ที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกาที่แม้ไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสนช. เข้ารับการเสนอชื่อครั้งต่อไป เพราะข้อห้ามดังกล่าวกำหนดไว้เฉพาะส่วนของบุคคลที่ผ่านกระบวนการสรรหาเท่านั้น

"เดิม กรธ. เขียนห้ามไว้ทั้ง บุคคลที่มาจากการสรรหาและผู้ที่คัดเลือกผ่านที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกา แต่ในการประชุมของสนช. ในกฎหมายดังกล่าวได้ตัดส่วนดังกล่าวออก ดังนั้นผู้ที่เป็นตัวแทนจากศาล จึงมีสิทธิกับมาให้สนช. ลงมติใหม่ได้ แต่จะได้รับการลงมติเห็นชอบหรือไม่นั้น ผมตอบไม่ได้และไม่มีหลักประกันอะไร" นายมีชัย กล่าว

นายมีชัย ยังกล่าวถึงประเด็นที่เป็นปัญหาของการคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ด้วยว่า เชื่อว่า ที่ประชุมศาลฎีกาจะหาวิธีกระทำโดยเปิดเผย ซึ่งหมายถึงให้บุคคลอื่นทราบถึงเจตนาว่าตนเลือกผู้ใด ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะการขานชื่อ หรือยกมือเพื่อลงคะแนนเท่านั้น ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าการเลือกโดยเปิดเผยของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจะทำให้บุคคลที่ไม่ได้รับเลือกมีความรู้สึกไม่ดีนั้น เชื่อว่าไม่เกิดขึ้นเพราะบุคคลที่อยู่ในแวดวงกฎหมายต้องมีใจนิ่ง เป็นธรรมและไม่โกรธ