สาว24โร่ร้องรรท.ผบช.น. คดีชนแล้วหนีไม่คืบหน้า

สาว24โร่ร้องรรท.ผบช.น. คดีชนแล้วหนีไม่คืบหน้า

สาววัย 24 โร่ร้องรรท.ผบช.น.คดีไม่คืบหน้า หลังน้าสาวโดนหนุ่มซิ่งจยย.พุ่งชนกลางเเยกเจ็บสาหัส "ชาญเทพ" ยันให้ความเป็นธรรม

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2560 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บชน.) น.ส.จิดาภา สุจินันท์กุล อายุ 24 ปี เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. เพื่อขอให้ตรวจสอบ และเร่งรัดคดีที่วัยรุ่นอายุ 16 ปี ขับรถจักรยานยนต์พุ่งชน น.ส.พรพรรณ แซ่ฉั่ว อายุ 63 ปีเป็นน้าสาว ขณะขี่รถจักรยานข้ามถนนไปยังฝั่งซอยเจริญกรุง 65 ตัวลอยกระเด็นหลุดจากรถจักรยาน ศีรษะกระแทกพื้น หมดสติ สมองช้ำและฉีกขาด เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 20.30 น. แต่ผ่านมา 6 เดือนแล้ว ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคู่กรณี และตำรวจยังไม่ออกหมายจับผู้กระทำผิด แม้จะมีหลักฐานชัดเจนก็ตาม

น.ส.จิดาภา เปิดเผยว่า วันนี้เข้าพบ รรท.ผบช.น. เพื่อนำหลักฐานต่างๆ มามอบให้ เช่น วีดิโอจากกล้องวงจรปิด ภาพนิ่ง เอกสารใบรับรองแพทย์ ใบแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดคดี เนื่องจากเหตุการณ์นี้ผ่านมา 6 เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งตนยังรู้สึกว่าทางตำรวจไม่อำนวยความสะดวกเท่าที่ควร ช่วงที่เกิดเหตุหลังนำตัวน้าสาวส่งโรงพยาบาล ตนได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจ สน. ยานนาวา แต่ตำรวจบอกว่าลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่ได้ ทั้งที่เหตุการณ์เพิ่งผ่านไป 2 ชั่วโมง จุดเกิดเหตุยังมีกองเลือด และมีพยานแวดล้อมอยู่ครบ นอกจากนี้ทางตำรวจเคยพูดกับตนว่า
“หากเป็นพ่อของเด็กที่ขับรถชน ก็จะไม่ให้มาขอโทษครอบครัวตน” จึงรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยตนได้โทรศัพท์ถามความคืบหน้ากับทางตำรวจเป็นระยะ ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา บอกให้รอผลการตรวจพิสูจน์จากกองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) แต่รอมาหลายเดือนแล้ว ยังไม่ได้ยังไม่สามารถออกหมายจับคนกระทำผิดได้

ก่อนหน้านี้ตนเป็นผู้หาหลักฐานเอง ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และชื่อ นามสกุลผู้กระทำผิด ผ่านเฟสบุ๊ค พบว่าผู้ที่ขับรถจักรยานยนต์เป็นเยาวชน อายุ 16 ปี ขับรถซ้อน 3 ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ จากนั้นมีการเรียกมาไกล่เกลี่ยครั้งเดียว แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ อีกทั้งครอบครัวของผู้กระทำผิดยังไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่น้าสาวตนต้องเข้ารับการรักษา ผ่าตัดเปิดกระโหลก ตอนนี้นอนไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถขยับตัวได้ มีอาการสมองช้ำ เยื่อหุ้มสมองขาด มีโรคแทรกซ้อน เสียค่ารักษาพยาบาลมากกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท ยังไม่รวมค่าดูแล ค่ายา อีกเดือนละหลายหมื่นบาท

ทางด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย แต่ขอกลับไปดูรายละเอียด ตรวจสอบหลักฐานให้แน่ชัดก่อน เพราะคดีนี้เป็นคดีอุบัติเหตุ เบื้องต้นที่เห็นภาพจากวีดิโอ จุดเกิดเหตุเป็นทางร่วม ทางแยก ตนจะให้ผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบว่ารถจักรยานยนต์ขับมาด้วยความเร็วเท่าใด และผู้ขับรถจักรยาน ระมัดระวังหรือไม่ และหากร้อยเวรรับเรื่องช้า ไม่อำนวยความสะดวกเรื่องสำนวน จะต้องถูกลงโทษด้านวินัยด้วย