ศอตช.จ่ายสำนวนเงินทอนวัดกว่า 300 เรื่อง ให้ 6 หน่วยตรวจสอบกระจายกำลังสอบสวน ดีเอสไอรับไป 56 สำนวน สั่งกองคดีความมั่นคงจัด 4 ทีม เร่งสืบสวนหาหลักฐานแล้ว
นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.)เปิดเผยผลการประชุมติดตามการตรวจสอบคดีทุจริตการเบิกจ่ายงบบูรณะปฏิสังขรณ์วัด ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ว่า การประชุมร่วมกันของหน่วยตรวจสอบ 6 หน่วย ประกอบด้วย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ และป.ป.ท. โดยทั้ง 6 หน่วยยังมุ่งเน้นตรวจสอบไปที่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด เบื้องต้นตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปติดต่อเพื่อให้วัดยื่นคำขอรับงบประมาณ หรือบางวัดไม่รู้เรื่องการของบประมาณเลย แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเนินการแทนทั้งหมด. ขณะนี้ได้แบ่งสำนวนที่มีการร้องเรียนกว่า 300 เรื่อง ให้แต่ละหน่วยงานแยกไปตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ หากพบความผิดต้องเร่งส่งสำนวนให้ป.ป.ท.หรือปปช.ไต่สวนความผิดทางอาญา. นอกจากนี้ยังขอให้ทั้ง 6 หน่วยงานแจ้งความคืบหน้ามายังศอตช. เพื่อประสานไปยังต้นสังกัดของข้าราชการที่กระทำความผิด ให้ลงโทษทางวินัยตามมาตรการทางปกครองควบคู่ไปกับการดำเนินคดีอาญา สำหรับผลการประชุมศอตช.ในวันนี้ได้รายงานให้นายสุวพันธ์ุ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานศอตช.ให้รับทราบแล้ว
ด้านพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในส่วนของดีเอสไอได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบกรณีเงินทอนวัด 56 สำนวน เบื้องต้นได้มอบให้กองคดีความมั่นคง จัดชุดสืบสวนแบ่งเป็น 4 ทีม กระจายกำลังลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้ง 56 สำนวนแล้ว เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงมารายงานต่อที่ประชุมศอตช. ในครั้งต่อไป
ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีเงินทอนวัดแล้วพบพฤติการณ์เจ้าหน้าที่ของรัฐพยายามทำลายหลักฐานและสร้างหลักฐานเท็จเพื่อให้ตนเองพ้นจากความผิดนั้น โดยผู้ที่ทำลายเอกสารของทางราชการจะมีความผิดเพิ่มอีก 1 ข้อหา อย่างไรก็ตาม หลังศอตช.ตรวจสอบพบและแจ้งเตือนให้หยุดพฤติการณ์ ก็ยังไม่พบข้อมูลว่ามีความพยายามจะทำลายเอกสารในพื้นที่อื่นอีก