คสช.ชี้มีคนคิดแพลงๆ สร้างความวุ่นวายใกล้สนามหลวง

คสช.ชี้มีคนคิดแพลงๆ สร้างความวุ่นวายใกล้สนามหลวง

เหตุบึ้มหน้าโรงละครแห่งชาติ "คสช." ชี้มีคนคิดแพลงๆ สร้างความวุ่นวายใกล้สนามหลวง ย้ำมีคนเป็นล้านคนที่ตั้งใจเข้าไปกราบพระบรมศพ แต่อาจจะมีคนเพียงสิบหรือไม่ถึงร้อยคิดสร้างความสับสน สร้างภาพเป็นข่าวให้เกิดขึ้น

พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณี ที่ทางตำรวจออกมาระบุว่าเหตุระเบิดบริเวณโรงละครแห่งชาติ มีลักษณะคล้ายคลึงกับในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จะต้องฟังข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหลัก โดยการนำสิ่งของมาวิเคราะห์ว่าจะเชื่อมโยงหรือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวัตถุพยานการประกอบ วิธีการนำมาใช้ สถานที่ พื้นที่ที่จะนำมาใช้ วัตถุประสงค์เจตนารมณ์ที่ต้องการทำ จะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าเป็นบุคคลที่มีขีดความสามารถ และกลุ่มใดที่มีความรู้ที่จะทำเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ พื้นที่บริเวณสนามหลวงเป็นพื้นที่ที่อ่อนไหว เพราะปัจจุบันมีงานสำคัญ คือเข้ากราบพระบรมศพฯ แต่เป็นบททดสอบอย่างหนึ่ง ในเรื่องของมาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งอาจจะมีความถี่น้อยไป มันจะต้องเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวน เข้าตรวจเฝ้าดู ซึ่งระบบการรักษาความปลอดภัยบริเวณพื้นที่สนามหลวงจะแบ่งออกเป็นชั้นๆ ซึ่งบริเวณชั้นในจะมีความเข้มงวดสูงสุด มีพื้นที่คัดกรองคนที่จะเข้าไปสู่ชั้นใน ชั้นกลางมีการวางกำลัง และชั้นนอก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดในพื้นที่ชั้นนอก แต่เราไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้

"อาจจะมีคนที่คิด หรือพยายาม มองว่าถ้าตอนนี้สามารถจุดกระแสแห่งความสับสนวุ่นวาย จนทำให้เกิดความตื่นตระหนก ในลักษณะการก่อกวน ก็อาจมีคนคิดอะไรแปลกๆแผลงๆอยากจะสร้างกระแส จุดประเด็นเหล่านั้น ส่วนจะเป็นกลุ่มไหนนั้นยังตอบไม่ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะต้องติดตาม มีความตื่นตัวมากขึ้น ตรงไหนที่จะเป็นช่องว่าง ก็จะต้องนำไปสู่การแก้ไข อย่างทันท่วงที เพราะเหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นอีกก็ได้ จึงต้องหามาตรการที่เหมาะสม และไม่ทำให้ประชาชนรู้สึกอึดอัด หรือตื่นตระหนกจนเกินไป ทั้งนี้หากเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามมาตรการเหล่านี้แล้วยังไม่เพียงพอก็จะต้องเพิ่มมาตรการเข้าไป รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งเบาะแส" พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าว

พ.อ.ปิยพงษ์ กล่าวอีกว่า มีคนเป็นล้านคนที่ตั้งใจเข้าไปกราบพระบรมศพ แต่อาจจะมีคนเพียงสิบ หรือไม่ถึงร้อย ที่คิดแพลงๆ ในการสร้างความสำคัญ จุดกระแสแห่งความวุ่นวาย สับสน สร้างภาพข่าวให้เกิดขึ้น ซึ่งวัตถุพยานที่ปรากฏ ทราบกันดีว่าต้องการเพียงให้เกิดเสียงดังเท่านั้น ไม่ได้เป็นเหตุนำไปสู่ การสูญเสียชีวิต ทรัพย์สินหรือสิ่งของ เพียงแต่ต้องการเสียงดังๆ ไม่ทำร้ายคน ซึ่งการคิดแบบนี้และสร้างกระแสแบบนี้ ต้องเป็นคนที่คิดไม่เหมือนคนทั่วไป เราก็ต้องหามาตรการ เพิ่มเติมมากขึ้น เช่น การขยายพื้นที่เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลออกไปอีก ถือเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลและมีการบูรณาการร่วมกัน ในนามของกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เขตพระบรมมหาราชวัง

ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการฝ่าย คสช. ตรวจสอบเหตุเสียงดังคล้ายระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ทาง คสช. ได้มีการประสานข้อมูลร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ขอให้รอความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทั้งนี้ คสช. ยังไม่อยากพาดพิง หรือ คาดการณ์ว่าเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวเชื่อมโยงกับใคร เพราะความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองต้องมาก่อน ในขณะที่ พล.อ.เฉลิมชัยสิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. เน้นย้ำเรื่องงานด้านการข่าวและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน พร้อมระบุว่า อะไรที่เป็น ช่องว่าง รอยต่อ ขอให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแล

พ.อ.ปิยพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับในช่วงสุดท้ายของ คสช.งานต่างๆ ที่ยังทำไม่แล้วเสร็จก็จะต้องเร่งเดินหน้าในกรอบเวลาที่มีอยู่เพื่อวางอนาคตและรากฐานของประเทศ เพื่อส่งต่อให้กับรัฐบาลชุดใหม่เพื่อให้การบริหารงานไม่สะดุดติดขัดและราบรื่น