'บิ๊กจิ๋ว85'เล่าขอจีนได้รถถัง200คัน ฟรีเกต8และเรือดำน้ำ1ลำ
อดีตนายกฯ "บิ๊กจิ๋ว" ครบรอบวันเกิดปีที่85 เผยเจ็บอยู่รพ.6เดือน เพราะล้มหัวฟาดฟื้น เล่ายาวเคยขอจีนได้รถถัง200คัน เรือฟรีเกต8ลำ และเรือดำน้ำ1ลำ
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่ซอยปิ่นประภาคม ถนนติวานนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เปิดบ้านก่อนวันคล้ายวันเกิน 1 วัน (15 พ.ค.) ให้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า นักธุรกิจ และประชาชน เข้าอวยพรเนื่องในวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดครบ 85 ปี ในวันที่ 15 พ.ค. โดย พล.อ.ชวลิต พร้อมคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ภริยา ออกมาจากบ้านพักตั้งแต่ช่วงเช้า สวมชุดไทยผ้าไหมหน้าตาแจ่มใส่ แต่ยังใช้ไม้ค้ำยัน ช่วยพยุงในการเดิน นั่งบริเวณหน้าบ้านที่จัดเป็นพื้นที่รับแขก
โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีบุคคลที่เดินทางเข้าอวยพรอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายสุชาติ ธาดาธำรงค์เวช อดีตรมว.ศึกษา, นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย, พล.อ.ณฐพันธุ์ วัฒนวิบูลย์ อดีตเสนาธิการทหาร, พล.อ.วิชิต ยาทิพย์, พล.ต.ศรชัย มนติวัต อดีตนายทหารฝ่านเสนาธิการประจำพล.อ.ชวลิตร
พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ กล่าวว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ทำให้วันนี้มาพบปะพูดคุยกับตนในวันนี้ ซึ่งตนนั้นได้อยู่โรงพยาบาลเป็นเวลา 6 เดือน เนื่องมาจากสาเหตุหน้ามืดและหกล้มบริเวณชั้น 5 ของบ้านเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ปี 2559 จนทำให้มีเลือดคลั่งในสมอง กระดูกนิ้วก้อยขวาหัก ทางบ้านจึงนำส่งรพ. ความจำก็ไม่ค่อยดี เพราะเส้นเลือดในสมองแตกสองเส้นจึงส่งผลกระทบต่อเรื่องความจำ ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูในโรงพยาบาล จึงขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันที่อีก15 ปีจะก็จะครบ 100 ปี ควรพยายามนั่ง อย่าลุกขึ้นมาทันทีทันใดจะทำให้หน้ามืดและล้มหัวฟาดพื้นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ทาง พล.อ.ชวลิต ได้แจกของที่ระลึก เป็นหนังสือ “เราจะสร้างความปรองดองกันอย่างไร” โดยนำบทความที่พล.อ.ชวลิต ได้ให้สัมภาษณ์ ต่อสื่อมวลชนไปแล้ว มารวบรวมอยู่ภายในเล่ม อาทิ มูลเหตุที่แท้จริงความแตกแยกมาจากปัญหาทางการเมือง ไม่เป็นประชาธิปไตย และปัญหาทางการเมืองปัญหาเดียวคือระบอบเผด็จการ ความปรองดองทางการเมือง คือ การทำให้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้แจก พระสมเด็จนางพญา ฉลองสิริราชณสมบัติ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี “รุ่นประวัติศาสตร์โลก” วัดอรุณราชวราราม กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่พล.อ.ชวลิต ป่วยนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล กว่า 6 เดือน และออกมาพักฟื้นรักษาอาการป่วยที่บ้านพัก ซอยปิ่นประพาคม สำหรับพล.อ.ชวลิตร เกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2475 ตรงกับปีวอก เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ อดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตผู้ช่วยการทหารสูงสุด หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ และอดีตนายกรัฐมนตรี
อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่า ในสมัยที่ตนทำหน้าที่รักษาการตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตนได้ติดต่อกับมิตรประเทศที่สำคัญ เช่น ประธานาธิบดี เติ้ง เสี่ยว ผิง และผู้ใหญ่ในประเทศจีนอีกหลายท่าน ได้พูดคุยและทำความเข้าใจ ซึ่งการพูดคุยในครั้งนั้น ทางประเทศจีนได้มอบรถถัง 200 คัน เรือฟรีเกต 8 ลำ เรือบรรทุกทหาร 2 ลำ และตนได้ขอเรือดำน้ำ 1 ลำ โดยทางประเทศจีนได้ให้เรือดำน้ำขนาดเล็กมา แต่ตนได้ขอไปว่าขอเป็นเรือดำน้ำขนาดใหญ่ ทางจีนบอกว่าขอให้ความสัมพันธ์ไทย-จีนมากกว่านี้ ก็น่าจะมอบให้ได้
“ผมมองว่าการที่จะมีเรือดำน้ำหรือไม่ ไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่เราพูดๆกัน มีเรื่องที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเรือดำน้ำที่ผมไปขอในครั้งนั้นไม่ได้ต้องการไปรบกับใคร ความต้องการที่แท้จริงคือการฝึกกำลังพลให้มีความรู้มากกว่า ฝึกในเรื่องการจัดการ การซ่อมบำรุง และการรบทหารที่ทำงานใต้น้ำกับทหารที่ทำงานในน้ำไม่เหมือนกันเดินสวนกันยังรู้เลย ด้วยวิธีทำความเคารพที่มีความแตกต่างกัน การใช้เรือดำน้ำไม่ใช่ฝึกเพียงหนึ่งถึงสองอาทิตย์จะต้องใช้เวลานาน เราต้องเห็นใจและเข้าใจกัน ในความต้องการที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ” พล.อ.ชวลิต กล่าว
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ผลงาน 3 ปีของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า การจะดูผลงานเราจะต้องรู้อย่างละเอียดไม่ใช่รู้เพียงบางส่วน ตนขอเอาใจช่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารบ้านเมืองในชุดนี้ มีเจตนาที่ดี ที่จะเอาจริงเอาจังกับสิ่งที่ทำอยู่ ตนก็พยายามภาวนาเอาใจช่วย แต่จะให้ตนตอบจริงๆ ว่า เป็นอย่างไรนั้น ต้องให้เวลาหน่อยจึงจะสามารถตอบได้ ส่วนที่รัฐบาลจะทำตามโรดแมพที่ตั้งไว้ แล้วจะมีการเลือกตั้งตามโรดแมพหรือไม่นั้น ตนคิดว่าหลักการในการปกครองปัจจุบัน เรารู้อยู่แล้วหนีไม่พ้นระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย คือ อธิปไตยเป็นของปวงชน เป็นหลักที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามเมื่อ 20 -30 ปีที่ผ่านมา เราเคยต่อสู้ในระบบนี้มาแล้วฝ่ายหนึ่งอยากได้อธิปไตย แต่ปวงชนที่เป็นส่วนประกอบที่เป็นส่วนสำคัญที่สุด กลับเลือกที่จะมาอยู่ในระบบประชาธิปไตย อย่างในปัจจุบัน ผู้บริหารประเทศตอนนี้ท่านให้ความจริงใจต่อมวลชน มหาชนมวลชนก็จะรักท่าน ตนเชื่อว่าท่านก็พยายามทำอย่างนี้อยู่แล้ว ซึ่งสุดท้ายทาง คสช. ก็ต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน เพราะเป็นสิ่งที่มวลชนต้องการ
เมื่อถามว่าภายใน 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลบริหารงานแบบอำนาจเต็มแต่มีปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชน โดยเฉพาะความยากจน ด้านเศรษฐกิจที่ยังไม่ค่อยดี พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ในชีวิตตน ได้ตั้งเจตนารมณ์ของชีวิตเอาไว้ และต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งเมื่อตอนรับราชการอยู่นั้นตนยังทำไม่สำเร็จ ทำสำเร็จเพียงเรื่องเดียวคือการสร้างความสงบสุข แต่แน่นอนที่สุดรัฐบาลนี้ก็พยายามที่จะแก้ไข ซึ่งตนคิดว่าต่อไปนี้ทางรัฐบาลน่าจะทำอะไรเพื่อขจัดความยากจนของพี่น้องประชาชน คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะต้องทำ
พล.อ.ชวลิต ยังกล่าวถึงสถานการณ์ภาคใต้ว่า ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีองค์กรเกิดขึ้นใหม่ เช่น กลุ่มมาราปัตตานี ที่มีความขัดแย้งกับกลุ่มบีอาร์เอ็น พี่น้องคนใต้มีความรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เพราะเหตุที่เกิดมันมีความแปลก ถ้าสถานการณ์เงียบก็จะเกิดเหตุทุกที แล้วโยนความผิดให้กับ 2 กลุ่มนี้ เพราะฉะนั้นตนมองว่า ทั้งสองกลุ่มนี้ต้องหันหน้ามาพูดคุยกัน ตนสงสารพวกทหารน้องๆที่พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ดังนั้นตนจึงพยายามอธิบายให้ฟังความ กลุ่มมาราปัตตานีไม่ใช่กลุ่มที่ก่อเหตุ อยากให้ทุกคนช่วยสนับสนุนกัน ให้ความรักความเข้าใจกัน อย่าไปใช้ปืน ใช้กำลังไม่มีประโยชน์ ร่วมกันช่วยกันคนไม้คนละมือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้สงบ เชื่อว่าคนในบ้านเมืองนี้มีความสามารถเยอะ โดยเฉพาะภาคใต้ ที่เกิดเรื่องมากเป็นเพราะความไม่เข้าใจกัน







