ชี้2ทางออก! หลังศาลฎีกาสั่งลงโทษ ผัวเมียเก็บเห็ดคดีรุกป่า

ชี้2ทางออก! หลังศาลฎีกาสั่งลงโทษ ผัวเมียเก็บเห็ดคดีรุกป่า

รองปลัดยธ. เผย 2 ทางออก คดีผัวเมียเก็บเห็ด หลังศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี ให้ยื่นขอรื้อฟื้นคดีอาญา-ขอพระราชทานอภัยโทษ

นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีสามีภรรยาเก็บเห็ดว่า ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว จำเลยทั้ง 2 ราย ต้องรับโทษอาญาตามคำพิพากษา 5 ปี แต่เคยได้รับโทษจำมาก่อนแล้ว 1 ปี 8 เดือน จึงเหลือโทษที่ต้องรับตามคำพิพากษาอีก 3 ปี 4 เดือน

สำหรับทางออกมี 2 ทาง คือ การขอรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ตามพระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ และการขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องคำพิพากษาให้รับโทษอย่างใดๆ หรือผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้อง เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วจะทูลเกล้า ฯ ถวายเรื่องราวต่อพระมหากษัตริย์ขอรับพระราชทานอภัยโทษ โดยจะยื่นเรื่องให้เรือนจำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่ากรณีการจะรื้อฟื้นคดีกลับมาพิจารณาคดีใหม่นั้น ต้องมีหลักบานชัดเจน ดังนี้ 1.พยานบุคคลซึ่งศาลได้อาศัยเป็นหลักในการพิพากษาคดีอันถึงที่สุดนั้น ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในภายหลังแสดงว่าคำเบิกความของพยานนั้นเป็นเท็จ หรือไม่ถูกต้องตรงกับความจริง

2.มีพยานหลักฐานอื่นนอกจากพยานบุคคล ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีที่ถึงที่สุด เป็นพยานปลอมหรือเป็นเท็จ หรือไม่ถูกต้องตรงกับความจริง และ 3 มีพยานหลักฐานใหม่อันชัดแจ้งและสำคัญแก่คดีซึ่งถ้าได้นำมาสืบในคดีอันถึงที่สุดนั้น จะแสดงว่าบุคคลผู้ต้องรับโทษอาญาโดยคำพิพากษาถึงที่สุดนั้นไม่ได้กระทำความผิด

ทั้งนี้หากศาลรับให้มีการรื้อฟื้นคดีอาญากระทรวงยุติธรรมก็ได้อนุมัติหลักทรัพย์ที่จะใช้ในการยื่นประกันตัวจำเลยระหว่างการรื้อฟื้นคดีอาญาไว้แล้ว