ปรับ1หมื่น! สปท.ฉาวขอโทษ เขกหัวบาร์เทนเดอร์เรียกป๋า
จบสวย! "สปท.อนุสร" ขอโทษหนุ่มบาร์เทนเดอร์ ขอรับผิดเยียวยารายได้ที่หยุดงาน -ตร.แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายปรับ1หมื่น
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 14 มีนาคม ที่ห้องประชุม สน.บางซื่อ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ได้เชิญนายอนุสร จิรพงศ์ อายุ 60 ปี นายชาตอลงกรณ์ นิลยาน พนักงานบาร์เทนเดอร์ ร้านอาหารดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้เสียหายและ แสงระวี ช่วยปุ่ม ผู้จักการร้านเข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ย พร้อมด้วย พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผกก.สน.บางซื่อ และพ.ต.ท.จิรภัทร แต้มทอง รอง ผกก. (สอบสวน) สน.บางซื่อ
นายชาตอลงกรณ์ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นพนักงานบาร์เทนเดอร์ ของทางร้าน มีหน้าที่ผสมเครื่องดื่มให้กับลูกค้า ซึ่งในวันเกิดเหตุตนได้ผสมเครื่องดื่มไปให้นายอนุสร ต่อมามีเพื่อนร่วมงานได้เดินมาบอกว่านายอนุสร เรียกไปพบตนจึงเดินเข้าไปและได้พูดคุยกันแต่ด้วยความตื่นเต้น ตนจึงได้เรียกสรรพนามแทนนายอนุสร ว่า “ป๋า” ซึ่งก่อนหน้านี้ตนจะใช้คำว่า “คุณ”
หลังจากนั้นก็เป็นภาพที่ปรากฎในคลิป ซึ่งหลังเกิดเหตุตนรู้สึกกลัวน้อยใจ และไม่ได้รับความเป็นธรรม ว่าตนทำอะไรผิด จึงได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางซื่อในวันเกิดเหตุ อย่างไรก็ตามตอนนี้ตนไม่ติดใจเอาความ และเข้าใจแล้วว่านายอนุสรไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งตนก็ต้องขอโทษนายอนุสร ด้วยหากวันนั้นตนให้คำพูดที่ไม่เหมาะสม
ด้านนายอนุสร กล่าวว่า ตนขอโทษสังคมและนายชาตอลงกรณ์ กับการกระทำของตนที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากเคยเจอนายชาตอลงกรณ์ และคุ้นเคยกัน และเคยบอกว่าไม่ให้เรียก “ป๋า” เพราะมันเป็นคำที่ไม่สุภาพ ซึ่งการกระทำที่เกิดขึ้นวันนั้นตนคิดว่าเป็นการหยอกล้อ ไม่คิดว่านายชาตอลงกรณ์ จะรู้สึกน้อยใจและเสียใจ จนเกิดเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถือว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นบทเรียน เพราะด้วยหน้าที่การงานทำให้ต้องระวังเป็นพิเศษและยังทำให้สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ทำให้ได้รับความเสื่อมเสีย
ทั้งนี้ตนก็ได้ขอรับผิดชอบและเยียวยาผู้เสียหายที่ต้องทำให้หยุดงานและเสียรายได้อีกด้วย
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ในส่วนของคดีความนั้นเนื่องจากเหตุการณ์นี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดินก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้หลักฐานทางการแพทย์ซึ่งระบุว่ามีรอยฟกช้ำ บวม ประมาณ 2ซม. จำนวน3 แผล ที่บริเวณแก้มขวา ใช้เวลาในการักษา3วัน พนักงานสอบสวนจึงพิจารณาให้แจ้งข้อกล่าวหาว่า "ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ มีโทษจำคุก1เดือน ปรับไม่เกิน1หมื่นบาท ทั้งนี้พนักงานสอบสวนลงความเห็นให้มีการปรับสูงสุด







