'ปลัดอ.คลองท่อม' งานเข้า! ผู้ว่าฯกระบี่เรียกแจงปมระดมคน

'ปลัดอ.คลองท่อม' งานเข้า! ผู้ว่าฯกระบี่เรียกแจงปมระดมคน

พิษวิจารณ์ว่อนเนต! ผู้ว่าฯกระบี่เรียก "ปลัดอำเภอคลองท่อม" ชี้แจง เหตุทำหนังสือระดมชาวบ้านหนุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน

กรณีการแชร์หนังสือสั่งการของอำเภอคลองท่อม จ.กระบี่ ที่ระบุให้ทางกำนันผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน จัดคนหมู่บ้านละ 20 คน ไปสนับสนุนดำเนินการสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ จ.กระบี่ ในวันที่ 16 ก.พ.2560 เวลา 15.00 น. บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ ลงนามโดยปลัดอำเภอ รักษาการนายอำเภอคลองท่อม

ซึ่งในหนังสือมีการอ้างอิงคำสั่งของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 พ.ย.59 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งว่ารัฐบาลจะดำเนินการสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ แก้ไขปัญหาขาดแคลนพลังงานที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จึงให้ดำเนินการเกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่ เพื่อสร้างความถูกต้องแก่ประชาชน

ทั้งนี้ หลังมีการแชร์หนังสือดังกล่าวออกไปอย่างกว้างขวาง ก็เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม โดยเฉพาะส่วนราชการ เนื่องจากขณะนี้เกิดความขัดแย้งในการเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยของการสร้างโรงไฟฟ้า ทั้งกลุ่มต้านและสนับสนุน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จึงควรวางตัวเป็นกลาง และรับฟังความเห็นต่างของทั้ง 2 ฝ่ายอย่างเหมาะสม

ด้านนายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า เพิ่งเห็นหนังสือดังกล่าวหลังมีการส่งต่อกันมา หลังทราบเรื่องก็ได้ให้เจ้าหน้าที่เชิญตัวปลัดอำเภอคลองท่อม ผู้ลงนามในหนังสือดังกล่าให้มาชี้แจงตนที่ศาลากลางวันนี้ และอยู่ระหว่างการประสานงาน ทั้งนี้เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นหนังสือจริงหรือปลอม หรือมีวัตถุประสงค์ใด แต่ทางจังหวัด ไม่เคยมีคำสั่งให้จัดตั้งมวลชนขึ้นมาสนับสนุน เพราะจะเกิดความแตกแยกขึ้น และรับฟังความเห็นของทั้ง 2 ฝ่าย เสนอส่วนกลางมาโดยตลอด

ขณะเดียวกันวันนี้ นายอัจฉริยะ นพรัตน์ ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ปาล์มน้ำมัน จ.กระบี่ พร้อมกลุ่มผู้ประกอบการโรงงานน้ำมันปาล์ม ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เข้ายื่นหนังสือผ่านจังหวัดถึงนายกรัฐมนตรี ให้รับซื้อกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ของผู้ประกอบการโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม เพื่อแก้ไขปัญหาไฟฟ้าภาคใต้ไม่เพียงพอ และเสริมความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าภาคใต้ หลังจากที่ผ่านมาได้มีการประกาศของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ให้หยุดรับคำร้องและข้อเสนอการรับซื้อไฟฟ้า

โดยนายอัจฉริยะ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคมทั้งการสนับสนุนและการต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินของคนในพื้นที่ และที่ผ่านมาได้มีการเสนอทางเลือกความมั่นคงด้านพลังงานโดยเฉพาะจากปาล์มน้ำมัน ซึ่งมีทั้งของเสียที่นำมาผลิตได้จำนวนมาก แต่ติดขัดที่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบส่งได้ จึงได้มายื่นหนังสือเพื่อลดปัญหาดังกล่าวไปถึงนายกรัฐมนตรีให้พิจารณา ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่ขายไฟฟ้าได้แล้วจำนวน 42.5 แมกกะวัตต์ คิดเป็น 47 เปอร์เซ็นต์ของการใช้ไฟฟ้าในกระบี่ที่ 90 เมกกะวัตต์ หรือพีค 142 เมกกะวัตต์ แต่มีโรงงานสกัดที่ยื่นคำขอไปแล้ว 18 ราย 21 โรงงาน มีกำลังการผลิต 109.23 เมกกะวัตต์ จึงขอให้ทบทวนและรับซื้อ รวมทั้งปรับปรุงระบบสายส่งให้รองรับได้ต่อไป