'นครบาล'เร่งหาข้อเท็จจริงทุจริตสอบ 'นายสิบตำรวจ'

"โฆษก ตร." ระบุ "พล.ต.ท.ศานิตย์" สั่งเร่งหาข้อเท็จจริงทุจริตสอบ "นายสิบตำรวจ" เบื้องต้นพบกลุ่มต้องสงสัยทั้งหมด 418 ราย
พล.ต.ต.ทรงพล วัฒนชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการรับสมัครและสอบคัดเลือกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดรับสมัครบุคคลภายนอก อายุระหว่าง 18-27 ปี วุฒิการศึกษามัธยมศึกษา 6 หรือ ปวช.หรือเทียบเท่า ให้สอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ โดยเปิดการสอบทุกภาค ในส่วนของ บช.น. ได้เปิดตำแหน่ง 1,000 อัตรา และเปิดรับสมัครเฉพาะทางอินเทอร์เน็ตไปเมื่อวันที่ 4-23 พ.ย. 59 มีผู้สมัครเข้าสอบทั้งหมด 13,285 คน และสอบข้อเขียนเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยใช้สนามสอบ 2 แห่ง คือ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก และวิทยาเขตบางนา โดยปรากฏว่า มีผู้สอบผ่านในข้อเขียนรอบแรกทั้งหมด 1,800 คน ก่อนเรียกตัวเพื่อสอบสัมภาษณ์ และทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจาณาคุณสมบัติผู้สอบผ่านในรอบสุดท้ายนั้น
แต่ปรากฎว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2560 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะแพทย์ศาสตร์จากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง รวม 4 คน มาสอบปากคำ หลังคณะกรรมการได้นำกระดาษข้อสอบทั้งหมดมาตรวจสอบครั้งสุดท้าย ก่อนพบความผิดปกติในกระดาษคำตอบ เนื่องจากประวัติการศึกษาของคนกลุ่มดังกล่าวอยู่ในระดับดี แต่บางรายกลับทำคะแนนในข้อสอบได้น้อยมากเพียง 13 คะแนน จากทั้งหมด 150 คะแนน ประกอบกับในกระดาษข้อสอบมีร่องรอยการทดเลขและเขียนคำตอบเฉลยไว้ถูกหมดทุกข้อ และมีขนาดใหญ่ผิดปกติ สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่ามีขบวนการเข้าไปร่วมสอบเพื่อเฉลยข้อมูลแก้ผู้เข้าสอบรายอื่น ๆ
ซึ่งขณะนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้สั่งการให้ กองบังคับการศูนย์สืบสวนเข้าไปร่วมกับคณะกรรมการดำเนินการสืบสวนโดยจะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการจัดการสอบและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเพื่อขยายผลหาผู้กระทำความผิดว่าเป็นใครมาจากไหนและมีจำนวนทั้งหมดเท่าไหร่ โดยคาดว่าในช่วงบ่ายจะมีการชี้แจงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง ส่วนจะมีการยกเลิกการสอบในครั้งนี้หรือไม่นั้นคงต้องรอผลการตรวจสอบและประชุมรืออีกครั้ง
"ที่ผ่านมาลักษณะของการทุจริตการสอบนั้น จะมีการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยี่ที่ทันสมัยเข้ามาใช้ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้วางมาตรการตรวจสอบคุมเข้มการนำอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะใช้ในการโกงข้อสอบอย่างเข้มงวด ทำให้กลุ่มผู้กระทำผิดกลับมาใช้วิธีแบบเก่าๆ โดยผู้จ้างวานจะนัดผู้ทำหน้าที่เฉลยข้อสอบ และผู้จะลอกข้อสอบให้มาพบกัน เพื่อนัดแนะวิธีการกันให้เข้าใจก่อนเข้าสนามสอบ ก่อนจะให้ผู้ที่มีความรู้เข้าไปสอบปะปน และแอบเฉลยข้อสอบให้กับพวกของตนเองระหว่างการสอบ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดพ้นการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ไปได้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบกลุ่มต้องสงสัยทั้งหมด 418 ราย และตรวจสอบรายชื่อไปแล้วทั้งหมด 80 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบภูมิหลังของผู้เข้าสอบยังพบด้วยว่า ปัจจุบันยังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอุดมศึกษาของมหาวิยาลัยชั้นนำหลายแห่ง มีทั้งคณะแพทย์ศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ และที่ผ่านมาได้เรียกตัวมาสอบปากคำไปแล้ว 15 ราย จากการสอบสวนทราบว่า การทุจริตดังกล่าวมีข้าราชการของกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายหนึ่ง เป็นผู้ว่าจ้างให้นักศึกษากลุ่มนี้เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ทำเฉลยข้อสอบ หรือที่เรียกว่า มือปืน ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและการศึกษาดี โดยจะได้ค่าจ้างคนละ 2-3 หมื่นบาท ส่วนตัวผู้จ้างวานจะเรียกเก็บค่าดำเนินการจากผู้ต้องการสอบเข้าสูงถึงหัวละ 5 แสนบาท







