ผบ.ทบ.ชี้จัดระเบียบ-เพิ่มโทษ 'คนขับรถตู้ฯ' หลังเหตุ25ศพ

ผบ.ทบ.ชี้จัดระเบียบ-เพิ่มโทษ 'คนขับรถตู้ฯ' หลังเหตุ25ศพ

"เลขาธิการ คสช." ชี้คนขับรถโดยสารต้องมีจิตสำนึก ฮึ่มจัดระเบียบ "คนขับรถตู้ฯ" ลุยเพิ่มโทษ หลังเหตุสังเวย25ศพ

เมื่อเวลา 07.30 น. พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่มียอดการเกิดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตในช่วงเทศกาลปีใหม่สูงกว่าปีที่ผ่านมาว่า ปีนี้ยอดการเกิดอุบัติเหตุมีตัวเลขที่สูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา และมีอุบัติเหตุครั้งใหญ่ คือกรณีของรถตู้โดยสารที่ประสบอุบัติเหตุประสานงากันรถกระบะจนมีผู้เสียชีวิตมากถึง 25 ราย ถือว่าค่อนข้างร้ายแรง

และเป็นบทเรียนสำคัญว่าหากเกิดอุบัติเหตุแล้วจะเกิดความสูญเสียขึ้นมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนพยายามดำเนินงานตามกรอบงาน แต่อาจจะมีประชาชนบางส่วนที่ละเลยและละเมิด โดยเฉพาะการดื่มสุรา จนเกิดอุบัติเหตุบนถนนเส้นรอง และรถโดยสารสาธารณะที่ทำงานเกินช่วงเวลาจนร่างกายของคนขับไม่พร้อม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ความมีวินัยและความรับผิดชอบของบุคคล

“ผมห่วงใยรถโดยสารสาธารณะที่ต้องรับผิดชอบชีวิตคนอื่นเป็นจำนวนมาก เพราะปัญหาเกิดจากความบกพร่องของตัวบุคคลเอง ขณะนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบกำลังสรุปข้อมูลว่า ข้อบกพร่องที่ทำให้ตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุไม่สามารถลดลงได้คือจากสาเหตุใด ช่วงเทศกาลทุกองค์กรทำงานเต็มที่ ไม่ได้หลับไม่ได้นอน แต่ในบางจุดก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะเส้นทางสายรองที่รถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุมากสุด ส่วนรถที่เจ้าหน้าที่ยึดไว้ตามมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” นั้น ถึงเวลาก็ขอให้ประชาชนไปรับรถคืนได้ แม้ว่าจะยึดรถไว้ได้เป็นจำนวนมากก็ยังเกิดอุบัติเหตุมาก” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว

เมื่อถามว่า ทางคสช.จะมีมาตรการดูแลปัญหารถตู้โดยสารอย่างไร พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า คสช.ต้องร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมจัดตั้งระบบ แต่ระบบไม่ว่าจะดีอย่างไร หากคนยังขาดจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อส่วนร่วมก็แก้ไขปัญหาได้ยาก รวมถึงยังมีการลักลอบทำแบบนั้นแบบนี้อีก ทำให้ปัญหาแก้ไขได้ยากขึ้น

ทั้งนี้ตนคิดว่าต้องจัดระเบียบเรื่องของคนขับรถตู้โดยสารให้มากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทที่รับผิดชอบจะต้องคัดเลือกคนที่ไว้วางใจได้ น่าเชื่อถือ และมีประวัติที่ดีมาเป็นผู้ขับรถ ไม่ใช่นั้นก็จะเกิดปัญหาใหญ่อีก ส่วนจะมีการพิจารณาเพิ่มโทษกับผู้ที่กระทำความผิดหรือไม่นั้น ตนมองว่าเรื่องข้อกฎหมายเป็นเรื่องที่ละเอียด ไม่สามารถทำได้ทันที เพราะการจะดำเนินการทุกอย่างต้องมีการหารือร่วมกันก่อน ที่สำคัญที่สุดคือการมีจิตสำนึกของคน