กทม.เร่งสร้างรพ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน คาดเปิดบริการปี 62

นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้า การก่อสร้างโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน บริเวณถนนบางขุนเทียน - ชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน ซึ่งกทม.สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับบริการทางการแพทย์ ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันควบคุมโรค และได้รับการบำบัดรักษาเฉพาะด้านแก่ผู้สูงอายุที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งกทม.ได้ขยายการให้บริการด้านการรักษาพยาบาล ให้แก่ประชาชนได้ทั่วถึงและครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งธนบุรีใต้ ได้แก่ เขตบางขุนเทียน เขตบางบอน เขตทุ่งครุ เขตจอมทอง เขตราษฎร์บูรณะ และปริมณฑล 

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 34 ไร่ 1 งาน 80 ตารางวา ซึ่งนางพรทิพย์ วงศ์ศิริเดช และนางสาวอุไร คนึงสุขเกษม ได้อุทิศให้กทม.ใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างโรงพยาบาลในสังกัด ขนาด 300 เตียง สามารถรองรับการให้บริการผู้ป่วยนอกได้ประมาณ1,000 คนต่อวัน ประกอบด้วยอาคารต่างๆ ดังนี้

1.อาคารโรงพยาบาลและศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ขนาด 5 ชั้น รวมดาดฟ้าและชั้นใต้ดิน 1 ชั้น 2.อาคารหอพักผู้ป่วยกลางน้ำ ขนาด 7 ชั้นรวมดาดฟ้า 3.อาคารสถานพักฟื้นผู้สูงอายุกลางน้ำ ขนาด 1 ชั้น 4.อาคารหอพักบุคลากรและอาคารบริการงานระบบ 5.อาคารสถานที่ซ่อมบำรุง/อาคารแก๊สทางการแพทย์ และอาคารพักขยะ และ6.อาคารหอพระ

ปัจจุบันโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียนเปิดให้บริการผู้ป่วยนอก ในอาคารผู้ป่วยนอกชั่วคราว เวลา 08.00 - 16.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งเมื่อก่อสร้างโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียนเสร็จแล้ว จะสามารถเปิดให้บริการทางการแพทย์ การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันควบคุมโรค รวมถึงการบำบัดรักษาเฉพาะด้านแก่ผู้สูงอายุที่มีประสิทธิภาพต่อไป 

นายจักกพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ตนได้กำชับให้ผู้เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ให้แล้วเสร็จตามกำหนดระยะเวลาที่วางไว้ เนื่องจากหากการก่อสร้างแล้วเสร็จล่าช้ากว่ากำหนด ก็จะทำให้ประชาชนเสียโอกาส ในการเข้ารับบริการด้านการแพทย์และพยาบาลจากกทม. ซึ่งเมื่อนับระยะเวลาตั้งแต่เริ่มมีนโยบายในการก่อสร้างและดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในปี 2554 ขณะนี้ก็ล่วงเลยมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว จึงไม่อยากให้เสียเวลานานกว่านี้ และเมื่อการก่อสร้างโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียนแล้วเสร็จตามที่กำหนดไว้ในปี 2562 ก็จะสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเต็มที่ตามแผนที่วางไว้ต่อไปด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง