ตลิ่งพังแล้ว! 'ฝายแม่ผ่องพรรณ' กักน้ำไม่อยู่ หลังใช้งาน11วัน

ตลิ่งพังแล้ว! 'ฝายแม่ผ่องพรรณ' กักน้ำไม่อยู่ หลังใช้งาน11วัน

ตลิ่งพังแล้ว! "ฝายแม่ผ่องพรรณ" งบก่อสร้าง 7,800 บาท ล่าสุดถูกน้ำเซาะตลิ่งพังกักน้ำไม่อยู่ หลังใช้งานเพียง11วัน ชาวบ้านเตรียมซ่อม25ก.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีที่เป็นกระแสในโลกโซเชียลมีเดีย เมื่อ1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องที่มีการสร้างฝายกั้นน้ำ โดยฝายดังกล่าวมีชื่อว่า "ฝายผ่องพรรณพัฒนา" ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา บ้านปางปอย ต.แม่คะ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โดยมีการเปิดพิธี เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา โดยมีนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา นายกสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบฝายชะลอน้ำดังกล่าว ซึ่งสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมได้สนับสนุนงบประมาณซื้อหินเพื่อก่อสร้างฝายดังกล่าว จำนวน 7,800 บาททำให้กลายเป็นกระแสอย่างหนักในโลกออนไลน์ ถึงความไม่เหมาะสม 

เนื่องจากชาวออนไลน์ ต่างไม่เห็นด้วยที่นำชื่อของนางผ่องพรรณมาตั้งเป็นชื่อฝาย แม้ว่าจะเป็นประธานสมาคมที่สนับสนุนงบประมาณก็ตาม แต่ทั้งหมดก็มาจากภาษีราษฎรทั้งสิ้น รวมทั้งแม้ว่าฝายจะต้นทุนต่ำ แต่งบประมาณที่ใช้เป็นค่านั่งเครื่องบินของนางผ่องพรรณและคณะ รวมทั้งการรับรองต่างๆ ตีเป็นเงินหลักล้านบาท ทำให้มีการเผยแพร่และแชร์ภาพในโลกโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด ทางเพจผู้ใช้เฟซบุ๊คที่ใช้ ชื่อว่า CSI LA ได้มีการเผยแพร่ภาพ ฝายแม่ผ่องพรรณว่า ได้พังเสียหายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อายุการใช้งานเพียง 11 วันเท่านั้น ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ และแชร์ภาพดังกล่าวเป็นจำนวนมากในโลกโซเชียล ส่วนใหญ่ถามถึงความคุ้มค่า กับเงินงบประมาณที่เสียไป รวมทั้งวิจารณ์การทำงานแบบผักชีโรยหน้า และการทำงานประจบนายของหน่วยงานภาครัฐ ขณะที่ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้ใหญ่บ้านและกำนันในพื้นที่ถึงความเป็นมาของเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว

นายอัครวินทร์ วันดา กำนันต.แม่คะ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ผลจากฝนที่ตกชุกในพื้นที่ติดต่อกันหลายวันรวมทั้งปริมาณน้ำจากลำห้วยที่มีมาก ทำให้น้ำกัดเซาะตลิ่งริมฝายแม่ผ่องพรรณ จนกลายเป็นช่องกว้าง ทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ตามเดิม ราว 1-2 วันที่ผ่านมา ซึ่งด้านตัวฝายที่ก่อสร้างเมื่อวันที่ 12 กันยายนนั้น ยังคงมั่นคงแข็งแรงดีไม่ได้เสียหาย ตามที่เข้าใจกันแต่อย่างใด และวางแผนที่จะเกณฑ์ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันซ่อมแซม โดยนำกระสอบทรายและหินในพื้นที่มาก่อปิดรูดังกล่าว ในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย.นี้ และคาดว่าดำเนินการสำเร็จกลับเป็นปกติได้ภายในวันเดียว ไม่จำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณ

ทั้งนี้ แต่เดิมบริเวณดังกล่าวเป็นลำห้วยที่ชาวบ้านทั้ง 15 หมู่บ้านในต.แม่คะ ได้ใช้ประโยชน์ ในการเกษตร ซึ่งหากมีการก่อสร้างฝายก็จะช่วยชะลอน้ำ เก็บไว้ใช้ในหน้าแล้งด้วย แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีการก่อสร้างฝายที่มั่นคงแข็งแรง กระทั่งมีการสนับสนุนจากศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กรมการพลังงานทหาร และสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ในการสร้างฝายดังกล่าว โดยสนับสนุนงบประมาณซื้อหินแล้วให้ชาวบ้านเป็นแรงงานแรงใจในการก่อสร้าง รวมทั้งตัดไม้ไผ่มาก่อสร้างเสริมความแข็งแรงจนสำเร็จ

“โดยผู้ใหญ่บ้านปางปอย ที่ดูแลพื้นที่ได้เสนอให้ใช้ชื่อของนางผ่องพรรณ ภรรยาของปลัดกระทรวงกลาโหม และประธานสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ที่กำลังจะมาเป็นประธานในการเปิดฝายดังกล่าวเพื่อให้เกียรตินางผ่องพรรณ ซึ่งชาวบ้านก็ไม่มีใครคัดค้าน จึงเป็นที่มาของชื่อฝาย ผ่องพรรณพัฒนาดังกล่าว”นายอัครวินทร์ กล่าว