นักอนุรักษ์ชู ‘ทุ่งสงโมเดล’ ต้นแบบบริหารขยะกทม.
ปัญหาการจัดการขยะในกทม. ดูเหมือนจะเป็นปัญหาโลกแตก เพราะไม่ว่าจะนำมาตรการใดมาแก้ปัญหา ก็ยังไม่สามารถลด“ขยะล้นเมือง”ลงไปได้ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจาก
แต่อีกประเด็นปัญหาที่สำคัญและน่าสนใจอย่างยิ่งก็คือ การลดปริมาณขยะ ทั้งการลดปริมาณจากวัตถุดิบต้นทาง การคัดแยกขยะ ซึ่งล้วนเป็นเรื่องของจิตสำนึกและการให้ความรู้ที่ยังไม่ถูกกระตุ้นเตือนอย่างที่ควรจะเป็น
นางกรกช บุญรอด เจ้าหน้าที่โครงการอาวุโสองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการโครงการการบริหารจัดการขยะ ที่มีความร่วมมือกับภาครัฐเอกชน และชุมชน ในการให้ความรู้ และจัดกิจกรรมต่างๆ หลายพื้นที่ มองว่าแนวทางการจัดการขยะของโครงการพลิกถุงพลิกโลก ที่เน้นให้มีการคัดแยกขยะที่ต้นทาง ซึ่งริเริ่มโดยนายทรงชัย วงษ์วัชรดำรง นายกเทศมนตรีเมืองทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช น่าจะเป็นโมเดลที่นำมาใช้กับการจัดการขยะใน กทม.ได้ โดยเฉพาะการจัดการขยะในโรงเรียน
อย่างเช่นที่โรงเรียนเทศบาลวัดชัยชุมพล เมื่อมีการทำโครงการนี้ สามารถลดขยะจากวันละ 500 กิโลกรัม เหลือเพียง 50 กิโลกรัม
สำหรับโครงการพลิกถุงพลิกโลก ที่ดำเนินการมาปีเศษสามารถยลดปริมาณขยะลงถึง 30% และยังช่วยลดงานการจัดเก็บขยะ ลดการใช้จ่ายงบประมาณ มีตัวเลขที่ยืนยันได้ชัดเจน จากเดิมจะต้องมองหาที่ฝังกลบขยะ ด้วยงบประมาณ 20-30 ล้านบาท แต่เมื่อมีการเริ่มต้นจัดการขยะตั้งแต่ระดับครอบครัว แม้จะต้องใช้เวลาแต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้
นายทรงชัย บอกว่าสิ่งที่เทศบาลเมืองทุ่งสงกำลังทำอยู่ เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยชาวทุ่งสงได้ประกาศต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ปีที่ผ่านมาว่า จะลดขยะให้ได้ 50% ขณะที่เพียงแค่เริ่มต้นเฉพาะในเขตเทศบาลก็สามารถลดได้แล้ว 30%
นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ร่วมดำเนินการให้ความรู้ เพื่อก้าวอย่างมั่นคง ให้ขยะเป็นศูนย์ในเวลา 5-10 ปีข้างหน้า ซึ่งขณะนี้สามารถคัดแยกขยะได้วันละ 10 ตัน ส่งให้บริษัทปูนซีเมนต์ไทยทุ่งสง นำไปผลิตเชื้อเพลิงแข็งหรืออาร์ดีเอฟ เพื่อสร้างรายได้เข้าเทศบาล
สำหรับโครงการพลิกถุงพลิกโลก เป็นโครงการจัดการคัดแยกขยะจากครัวเรือน ในเขตเทศบาลเมืองทุ่งสงทั้ง 20 ชุมชน โดยมีการเข้าไปสาธิตการจัดการขยะด้วยตนเองในทุกชุมชน รวมทั้งสถานศึกษา หน่วยงาน ต่างๆ โดยสามารถลดการใช้จ่ายงบประมาณในการขนถ่าย และจัดการขยะได้อย่างเป็นรูปธรรม







