อัยการยันสั่งคดี 'ธัมมชโย' ข้อหาฟอกเงิน30ส.ค.นี้

รองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ ยันนัดสั่งคดี "ธัมมชโย" ข้อหาฟอกเงิน30ส.ค.นี้ ลุ้น "ดีเอสไอ" ส่งผลสอบเพิ่มครบหมดหรือไม่ พรุ่งนี้ (11ส.ค.)
นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาคดีพระเทพญาณมหามุนี หรือ นายไชยบูรณ์ สุทธิผล หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงิน สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น มูลค่า 1,450 ล้านบาทเศษ ว่า คดีนี้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำนินการสอบสวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมพระผู้ใกล้ชิดพระธัมมชโย เกี่ยวกับเส้นทางการเงิน กรณีที่มีการรับเช็คและมีการใช้จ่ายเงินในวัดพระธรรมกาย
โดยอัยการขอให้สอบพระจำนวน 5 รูป ประกอบด้วย 1.พระราชภาวนาจารย์ หรือพระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาส รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย 2.พระถวัลย์ศักดิ์ ยติสักโก รอง ผอ.ำนักพัฒนาทรัพยากร วัดพระธรรมกาย 3.พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย 4. พระครูใบฎีกาอำนวยศักดิ์ มุนิสโก ผอ.สำนักองค์ประธาน วัดพระธรรมกาย และ5.พระสุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย สาขา นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ซึ่งก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมบางส่วนมาให้อัยการแล้ว ส่วนที่ผลการสอบสวนที่เหลือกำหนดให้นำมาส่ง ในวันที่ 11 ส.ค.นี้ ซึ่งต้อบรอดูว่าพนักงานสอบสวนดีเอสไอ จะส่งผลสอบเพิ่มเติมครบถ้วนทุกประเด็นตามที่อัยการให้ดำนินการหรือไม่
นายชาติพงษ์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ กล่าวต่อว่า หากพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ไม่สามารถส่งผลสอบเพิ่มเติมให้ได้ครบทุกประเด็น ก็ต้องดูเหตุผลและคำชี้แจงของพนักงานสอบสวนก่อนที่จะพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่ง
โดยคดีนี้ อัยการนัดสั่งคดีวันที่ 30 ส.ค.นี้ ซึ่งอัยการยังคงนัดผู้ต้องหามาฟังการสั่งคดีตามกำหนดดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งสำนวนให้อัยการสำนักงานคดีพิเศษเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยกล่าวหานายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ เครดิด ยูเนี่ยน คลองจั่น ผู้ต้องหาที่ 1,น.ส. ศรัณยา มานหมัด ผู้ต้องหาที่ 3 และ นาง ทองพิน กันล้อม ผู้ต้องหาที่ 4 กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน
และกล่าวหาพระธัมมชโย ผู้ต้องหาที่ 2 กับนางศศิธร โชคประสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 5 กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน,ร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ขณะที่นายศุภชัย ผู้ต้องหาที่ 1 ถูกจำคุกอยู่ในคดีอื่น ส่วนพระธัมมชโย ผู้ต้องหาที่ 2 และนางศศิธร ผู้ต้องหาที่ 5 พนักงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับไว้และยังจับกุมตัวไม่ได้ จึงไม่ได้นำตัวมาส่งให้อัยการ ส่วนข้อเท็จจริงตามสำนวน







