ไอคิว-อีคิวเด็กไทยน่าห่วง สมาร์ทโฟน-เกมทำขาดสมาธิ

ไอคิว-อีคิวเด็กไทยน่าห่วง สมาร์ทโฟน-เกมทำขาดสมาธิ

ผลสำรวจไอคิว-อีคิวเด็กไทยปี 59 เฉลี่ยประเทศอยู่ที่ 98.2 เพิ่มขึ้นจาก 5 ปีก่อน แต่ยังต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากล

ไอคิวเด็กไทยพบว่าเกิน 100 ใน 42 จังหวัด เฉพาะกรุงเทพฯไอคิว 103.4 ส่วนอีคิวพบขาดความมุ่งมั่นพยายาม-ทักษะแก้ปัญหา ชี้เด็กเมืองใช้แทปเล็ต-สมาร์ทโฟนมากเกิน จนขาดพัฒนาการความคิด-การสื่อสาร-สมาธิสั้น

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) เปิดเผยว่า กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้สำรวจสถานการณ์ระดับสติปัญญา (ไอคิว) และระดับความฉลาดทางอารมณ์ (อีคิว) ประจำปี2559 ในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั่วประเทศ จำนวน 23,644คน พบว่า คะแนนไอคิวเฉลี่ยอยู่ที่ 98.2 เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 94 แต่ยังต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากล ซึ่งกำหนดไว้ที่ 100 โดยภาพรวมเด็กมีไอคิวอยู่ในเกณฑ์ปกติ 2 ใน 3 หรือร้อยละ 68 โดยเด็กที่มีไอคิวสูงเกิน 100 ขึ้นไปมีอยู่ 42 จังหวัด เด็กในเขตอำเภอเมืองมีไอคิว 101.5 นอกเขตอำเภอเมืองไอคิวเฉลี่ย 96.9 เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีไอคิวเฉลี่ย 103.4
 
“ยังมีเด็กนักเรียนในอีก 35 จังหวัด ที่ไอคิวอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และเด็กที่มีระดับสติปัญญาบกพร่องหรือต่ำกว่า 70 ร้อยละ 5.8 ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานสากลกำหนดว่าไม่เกินร้อยละ 2 ส่วนมากเป็นเด็กที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ทุรกันดาร และฐานะไม่ค่อยดี โดยจังหวัดที่ระดับไอคิวลดลงจากปี 2554 คือ จ.อุบลราชธานี ระยอง ราชบุรี ลพบุรี หนองคาย บึงกาฬ และลำปาง ที่เหลือมีระดับไอคิวเพิ่มขึ้น หรือคงที่

ส่วนผลการสำรวจอีคิวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเป็นไปตามเป้าหมายร้อยละ 77 แต่ยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องได้รับการพัฒนา ซึ่งส่วนใหญ่มีปัญหาในด้านการขาดความมุ่งมั่นพยายาม และขาดทักษะในการแก้ปัญหา”ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกลกล่าว

พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต อธิบายถึงไอคิวเด็กไทยเพิ่มเติมว่า ที่เพิ่มขึ้นถึง 4 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศเพื่อนบ้านในระดับเอเชียเหมือนกัน จังหวัดที่ระดับไอคิวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คือ จ.กระบี่ เพราะมีการทำเป็นนโยบายระดับจังหวัดในการดูแลแม่และเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และส่งเสริมพัฒนาศักยภาพศูนย์เด็กเล็ก

"อีกปัญหาหนึ่งที่พบ คือ ในเขตเมืองที่ควรมีระดับไอคิวสูงกว่า 100 จุด แต่ระดับไอคิวกลับหยุดนิ่ง เพราะมีการใช้แทปเล็ต สมาร์ทโฟนมากเกินไป ทำให้เด็กขาดพัฒนาการทางด้านความคิด และการสื่อสาร สมาธิสั้น เพราะการเล่นเกมหรือใช้โปรแกรมต่างๆ นั้นมีแต่สิ่งเร้า แสง สีเสียง ทำให้ขาดสมาธิ ดังนั้นเด็ก0-3ขวบไม่ควรใช้อุปกรณ์เหล่านี้เลย แม้กระทั่งเด็ก ป.1ก็ไม่อยากให้ใช้