สลด! เหตุรถตู้คณะครูคว่ำไฟลุกย่างสด 11 ศพ

สลด! เหตุรถตู้คณะครูคว่ำไฟลุกย่างสด 11 ศพ

สลด! เหตุรถตู้คณะครูยางแตกมอเตอร์เวย์คว่ำไฟลุกย่างสด 11 ศพ รอดตาย 4 คน ด้านแพทย์เตรียมพิสูจน์หาสาเหตุการณ์การเสียชีวิต

เมื่อเวลา 20.50 น. วานนี้ (10 มิ.ย.) ศูนย์วิทยุกู้ภัยไตรคุณธรรม ชลบุรี รับแจ้งเหตุรถตู้พลิกคว่ำเกิดเพลิงลุกไหม้ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายรายติดภายในรถ บนถนนมอเตอร์เวย์ขาเข้า กม.ที่ 63 + 500 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงประสานไปยังรถน้ำจากเทศบาลดอนหัวฬ่อ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุภกิจ กองาม สว.สทล.1 กก. 8 บก.ทล. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสงเคราะห์การกุศลฉะเชิงเทราและกู้ภัยไตรคุณธรรม ชลบุรี

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณ กม.62-64 พบรถตู้โตโยต้า คอมมิวเตอร์ ทะเบียน ฮย 6423 กรุงเทพมหานคร เกิดเพลิงลุกไหม้ทั้งคัน พบผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 4 ราย มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย และมีแผลจากการถูกไฟไหม้ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11จำนวน 3 ราย และ นำส่งโรงพยาบาลชลบุรี 1 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตโดนไฟคลอกภายในรถทั้งหมด 11 ราย

พ.ต.ท.สุภกิจ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถตู้คันดังกล่าวเป็นรถของโรงเรียนคุ้มเกล้า สกอลา ตั้งอยู่เขตมีนบุรี กทม. ซึ่งเป็นรถที่กำลังพาคณะครูกลับจากทัศนศึกษาจากจังหวัดระยอง มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร โดยจากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้ขับรถมาบนถนนมอเตอร์เวย์ ขาออก มุ่งหน้าด่านพานทอง เพื่อไป จ.ระยอง โดยขับมาในช่องทางขวา เมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุสังเกตเห็นรถตู้คันเกิดเหตุ ขับสวนทางมาในฝั่งขาเข้า ก่อนเสียหลักพุ่งชนแบริเออร์ พร้อมกับมีเสียงระเบิดอย่างรุนแรง จากนั้นรถตู้ได้พลิกคว่ำในช่องทางขวา ฝั่งขาเข้า และเกิดไฟลุกไหม้เสียหายที่ด้านหน้า จากนั้นไฟได้ลามลุกไหม้ทั้งคัน

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการเฉี่ยวชน หรือคู่กรณีแต่อย่างใด คาดว่าก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร รถตู้เกิดยางแตก ที่ล้อหลังด้านขวา จึงทำให้เสียหลักพุ่งชนแบริเออร์ และพลิกคว่ำจนเกิดไฟลุกไหม้ทั้งคันดังกล่าว จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกคารถ จำนวน 11 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหนีรอดออกมาจากตัวรถ จำนวน 4 ราย ในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย หญิง 10 ราย ทั้งนี้หนึ่งในผู้เสียชีวิตมีเด็กหญิงวัย 8 ปี รวมอยู่ด้วย ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าวหรือไม่ อย่างไรก็ตามรายละเอียดต้องรอการสอบปากคำจากผู้ที่เกี่ยวข้องเสียก่อน ส่วนรถคันเกิดเหตุนั้นพบว่าเป็นรถที่ติดแก๊สอยู่ด้านหลัง แต่จากการตรวจสอบแล้วถังแก๊สไม่ได้มีร่องรอยบุบของถัง หรือร่องรอยการระเบิด ประกอบกับผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่าไฟลุกใหม้จากด้านหน้าจึงต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบอีกครั้ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ศพ ส่งตัวไปชันสูตรที่โรงพยาบาลชลบุรี เพื่อทำการตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการณ์การเสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้บาดเจ็บทั้ง 4 ราย คือ 1.น.ส.ศิริพร สุทธิธรรม อายุ 25 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยมีรอยถลอกตามร่างกาย แพทย์ให้กลับบ้านได้ 2.น.ส.นิภาพร ชูแก้ว อายุ 25 ปี กำลังตั้งครรภ์ ได้รับบาดเจ็บแผลถลอกที่ขาซ้ายด้านหลัง พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 3.น.ส.เพอร์เลีย บิฮัก (Miss Perlie Bihag) อายุ 45 ปี ครูสอนภาษาอังกฤษ ได้รับบาดเจ็บขาขวาหัก รักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11 และ 4.น.ส.ณัฐชยา กุลชล อายุ 52 ปี(ผอ.โรงเรียน) ได้รับบาดเจ็บแผลถลอกตามร่างกาย รักษาตัวที่โรงพยาบาลชลบุรี โดยผู้บาดเจ็บให้การว่า น.ส.ณัฐชยา เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ชี้ชัดเพราะต้องรอสอบผู้บาดเจ็บทั้งหมดเสียก่อน

ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ประกอบด้วย 1.น.ส.กุลธิดา โยธี 2.น.ส.อำพา หรสิทธิ์ 3.น.ส.เยาวลักษณ์ อุยตระกูล 4.น.ส.เบอเบอรีน เอร์ร่า ชาวฟิลิปปินส์ 5.นางวราพร คนแก้ว 6.น.ส.นันธิภัคค์ ธัญจิราธินานันต์ 7.นายกฤษณะ คนประเสริฐ (เจ้าของโรงเรียน ) 8.ด.ญ.กัญญาภัค คนแก้ว อายุ 8 ปี (นักเรียนชั้น ป.3) 9.น.ส.นวลจันทร์ วิชัยต๊ะ (รอง ผอ.โรงเรียนเซ็นต์ นีโอศรี ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมาเยี่ยมทัศนศึกษากับโรงเรียนคุ้มเกล้า สกอลา) 10.น.ส.รัศมี ศุภรัศมีสกุล (ผอ.โรงเรียนเซ็นต์ นีโอศรี ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมาเยี่ยมทัศนศึกษากับโรงเรียนคุ้มเกล้า สกอลา) และ 11.น.ส.เลขา โต๊ะสะและห์

กระทั่งเวลา 23.35 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังปิดการจราจร 2 ช่องทางขวาเพื่อดำเนินการชันสูตรศพและเคลื่อนย้าย ซึ่งรถผ่านได้ 2 ช่องทางด้านซ้าย การจราจรยังติดขัดอย่างหนัก รถติดยาวหลายกิโลเมตรต่อเนื่องนานกว่า 3 ชั่วโมง ต่อมา เวลา 23.55 น. เจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่ ก่อนเปิดการจราจรตามปกติ

ต่อมาเวลา 01.30 น. วันที่ 11 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า ที่อาคารศาลาโรตารี่ โรงพยาบาลชลบุรี ถนนสุขุมวิท ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี มีบรรดาญาติผู้ตายบางส่วนเดินทางเพื่อมารับศพ โดยมีญาติของ น.ส.เลขา โต๊ะสะและห์ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการของโรงเรียนดังกล่าว และนับถือศาสนาอิสลาม เดินทางมาขอเจ้าหน้าที่รับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อนำศพกลับที่บ้านพักย่านหนองจอก กทม. แต่ทว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้นำศพกลับไปได้ เนื่องจากต้องทำการชันสูตร และพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลให้แน่ชัดก่อน ทำให้ทางญาติต่างร้องไห้ด้วยความเศร้าเสียใจ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศรกเศร้า ซึ่งทางญาติต่างต้องนั่งเฝ้ารอรับศพเพื่อรับศพในช่วงเช้าอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้นำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 11 รายมาไว้ยัง รพ.ดังกล่าว เพื่อรอคณะแพทย์ทำการผ่าพิสูจน์พลิกศพ และพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป

ล่าสุดเมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 11 มิถุนายน ที่หน่วยสอบสวนตำรวจทางหลวงเขาดิน (ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้นำซากรถตู้โตโยต้า คอมมิวเตอร์ ทะเบียน ฮย 6423 กรุงเทพมหานคร ที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุรถยางแตกพลิกคว่ำจนไฟลุก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย มาเก็บไว้ภายในจุดเก็บรถที่ประสบอุบัติเหตุด้านข้างสถานี โดยสภาพความเสียหายพังยับเยินทั้งคัน มีร่องรอยการถูกไฟเผาไหม้จนเหลือเพียงเศษเหล็ก

พ.ต.ท.สุภกิจ กองาม สว.(สอบสวน).ส.ทล.1 กก. 8 บก.ทล. กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดเหตุตนได้เดินทางไปทำการสอบสวนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 ราย ที่ รพ.จุฬารัตน์11 จำนวน 3 ราย และ รพ.ชลบุรี อีก 1 ราย ซึ่งทางแพทย์ทำการรักษายังไม่อนุญาตให้ทำการสอบปากคำ เนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บบางรายยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ ตลอดจนยังอยู่ในอาการหวาดผวาตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอาการอ่อนล้า จึงต้องมาสอบปากคำในภายหลังอีกครั้ง คาดว่าน่าจะเป็นช่วงสายวันนี้

สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ณัฐชยา กุลชล ซึ่งผู้ขับขี่ ทางตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอผลตรวจจากทางกองพิสูจน์หลักฐาน และแนวทางการสอบสวน น่าจะไม่ยากและคาดว่าจะให้การสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เครดิตภาพ : กู้ภัย