'สืบพงษ์'ยันศาลอุทธรณ์ภาค5 ไม่ได้รุกเขตอุทยาน

โฆษกศาลยุติธรรม ยืนยันการก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 เป็นไปตามกฎหมายและไม่ได้รุกล้ำเขตอุทยานแต่อย่างใด
นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพถ่าย ทางอากาศ จนเป็นที่มาของประเด็นของการวิพากษ์วิจารณ์ทางสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คว่าศาลอุทธรณ์ภาค 5 รุกล้ำเขตอุทยานหรือไม่ โดยนายสืบพงษ์ โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ศาลยุติธรรมขอเรียนชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนว่า การก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 เป็นไปตามกฎหมายและไม่ได้รุกล้ำเขตอุทยานแต่อย่างใด เนื่องจากภาพถ่ายดังกล่าว เป็นพื้นที่บริเวณงานก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 , ที่พักของข้าราชการตุลาการ ข้าราชการศาลยุติธรรมของศาลอุทธรณ์ภาค 5 , ส้านักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 , ศาลแรงงานภาค 5 , ศาลจังหวัดเชียงใหม่ , ศาลแขวงเชียงใหม่และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ เป็นบ้านพัก 47 หลัง และอาคารชุด 13 อาคาร
ซึ่งภายหลังย้ายที่ทำการจากกรุงเทพฯ ได้ใช้พื้นที่บางส่วนในอาคารเดียวกัน กับศาลแขวงเชียงใหม่และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ที่มีที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกเด็ก ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ - ลำปาง จ.เชียงใหม่ เป็นที่ทำการชั่วคราวของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ทำให้สภาพที่ทำการอยู่ในสภาพคับแคบมากไม่สามารถสนองตอบในการให้บริการแก่ประชาชนได้เพียงพอกับ ปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา ประกอบกับบ้านพักข้าราชการตุลาการและข้าราชการศาลยุติธรรม ใน จ.เชียงใหม่ยังไม่เพียงพอ สำนักงานศาลยุติธรรม จึงได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารที่ท้าการ ศาลอุทธรณ์ภาค 5 แห่งใหม่ขึ้น โดยเมื่อปี 2549 ได้ขอใช้ที่ราชพัสดุที่อยู่ความปกครองดูแลของ มณฑลทหารบกที่ 33 แปลงหนังสือส้าคัญส้าหรับที่หลวงเลขที่ 394/2500 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และทะเบียนราชพัสดุเลขที่ ชม.1723 (บางส่วน) รวมเนื้อที่ 147 ไร่ 3 งาน 41 ตารางวา ซึ่งพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต มีลักษณะเป็นแนวยาวจากถนนเลียบคลองชลประทานเข้าไปในพื้นที่ระหว่าง ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ กับโครงการหมู่บ้านสวัสดิการทหารบก แต่ได้รับงบประมาณในการด้าเนินการก่อสร้างเมื่อปี 2556 และเริ่มด้าเนินการก่อสร้างในปี 2557
โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวอีกว่า การก่อสร้างดังกล่าว ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายาม ดำเนินก่อสร้างให้มีผลกระทบต่อสภาพพื้นที่เดิมให้น้อยที่สุด โดยได้เว้นพื้นที่ 58 ไร่จากจุดสูงสุดของพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ไม่ได้มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ เพื่อให้สภาพพื้นที่ที่มีต้นไม้อยู่เป็นจ้านวนมาก ให้มีสภาพเดิมมากที่สุด ซึ่งตนเชื่อว่า เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะทำให้ประชาชนที่มาติดต่อราชการศาลได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของศาลแขวงเชียงใหม่ , ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะมีพื้นที่ให้บริการเพิ่มมากขึ้น และศาลอุทธรณ์ภาค 5 แห่งใหม่ที่จะมีอาคารกว้างขวางทันสมัย เหมาะสมที่จะใช้เป็นสถานที่ประสิทธิ์ประสาทความยุติธรรม ให้แก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยให้แก่ข้าราชการตุลาการและข้าราชการศาลยุติธรรมยังเป็นการลดงบประมาณ ในการเบิกจ่ายค่าเช่าบ้านของทางราชการอีกทางหนึ่งด้วย







