รฟท.เตรียมเสนอ 'บิ๊กตู่' ปิดจุดตัดรถไฟเสี่ยง

รฟท. เดินหน้าสแกนพื้นที่จุดตัดรถไฟทั่วประเทศ เตรียมเสนอนายกรัฐมนตรีสั่งปิดจุดตัดที่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมาก
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เดินทางไปร่วมประชุมหารือกับนายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาอุบัติเหตุตรงจุดตัดทางรถไฟทั่วประเทศร่วมกันตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการลดการเกิดอุบัติเหตุบริเวณทางจุดตัดรถไฟและสร้างความปลอดภัยในการสัญจรแก่พี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ ในการประชุมได้รับความมือจากกระทรวงมหาดไทย โดยกระทรวงมหาดไทยได้ทำหนังสือสั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องข้อมูลจุดตัดทางรถไฟในพื้นที่ว่าข้อมูลของ รฟท.ปัจจุบันมีความถูกต้องตรงกับข้อมูลระดับพื้นที่แต่ละจังหวัดทั้งจำนวนและพิกัดจุดตัดทางรถไฟ เพื่อนำมาพิจารณาดำเนินการแก้ไขและลดความเสี่ยงทางกายภาพของแต่ละพื้นที่อย่างเร่งด่วน
“ปัจจุบันข้อมูลของ รฟท.มีจุดตัดทางรถไฟทั่วประเทศประมาณ 2,624 แห่ง มีจุดตัดทางรถไฟที่ได้รับอนุญาต 1,935 แห่ง และจุดตัดทางรถไฟที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือทางลักผ่าน 689 แห่ง ซึ่งหากการตรวจสอบข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยกับ รฟท.เสร็จ และพบว่าจุดตัดทางรถไฟบริเวณใดยังมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูงจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาปิดทางลักผ่านบริเวณนั้นทันที และจะมีการจัดหาเส้นทางสัญจรใหม่ที่ปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้เดินทางแทน” ผู้ว่า รฟท. กล่าว
ขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทยยังได้สั่งการไปยังนายอำเภอในพื้นที่ประสานการดำเนินงานร่วมกับผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการป้องกันและลดอุบัติเหตุด้วยการจัดกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัยบริเวณจุดตัดทางรถไฟร่วมกับนายสถานีรถไฟที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตามเวลาการเดินรถของรถไฟที่ผ่าน ตลอดจนมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินรถไฟ เช่น เวลาผ่าน จำนวนเที่ยว ผ่านหอกระจายข่าว เสียงตามสาย และช่องทางอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนรับทราบและเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าที่ผ่านมายังมีจุดตัดทางรถไฟที่ไม่ได้ขออนุญาตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือประชาชนและท้องถิ่นไม่ให้จัดทำทางลักผ่านขึ้นมาเองและต้องขอนุญาตกับ รฟท.ก่อนทุกครั้ง เพื่อให้สามารถเข้าไปตรวจสอบจัดเตรียมความพร้อมการเดินรถ รวมถึงให้คำแนะนำในการทำจุดตัดทางรถไฟที่มีมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยลดอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนที่ข้ามผ่านทางรถไฟระยะยาว







