ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง นศ.ร่วมขบวนการโกงสอบแพทย์

ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง นศ.ร่วมขบวนการโกงสอบแพทย์

อธิการ มรภ.พระนคร น้ำตาคลอ! รเสียใจ ชื่อมหา’ลัยปรากฏหน้าสื่อในทางเสียหาย พร้อมเผยตั้งคกก.สอบข้อเท็จจริง นศ.3 คนมีเอี่ยวโกงสอบแพทย์ ม.รังสิต

ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร (มรภ.พระนคร)รศ.ดร.พงศ์ หรดาล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร แถลงข่าวกรณีกล่าวถึงกรณีการทุจริตการสอบเข้าวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ระบบรับตรง รอบ 2 ประจำปีการศึกษา 2559 โดยใช้อุปกรณ์ไฮเทค แว่นตาและนาฬิการอัจฉริยะ หรือ สมาร์ทวอทช์ ในการกระทำการทุจริตและยังพบว่ามีนักศึกษาของมรภ.พระนคร เกี่ยวข้องกับการทุจริตด้วยนั้น ว่า นับแต่มีข่าวปรากฏในสื่อสารมวลชนว่ามีนักศึกษาของ มรภ.พระนครเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต ยืนยันว่ามหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ได้พยายามรวบรวมและหาข้อมูลมาตลอด เพราะเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อมหาวิทยาลัยอย่างยิ่ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาตนได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รศ.ดร.พงศ์ กล่าวอีกว่า จากนี้ คณะกรรมการสอบฯ จะต้องไปรวบรวม สืบหาข้อมูลว่านักศึกษาที่ระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทั้ง 3 รายเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ และสรุปเสนอมายังมหาวิทยาลัยพิจารณาดำเนินการตามระเบียบ มรภ.พระนคร ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2548 ซึ่งมีโทษตั้งแต่ตักเตือน ทัณฑ์บน พักการเรียน และให้ออก ซึ่งเวลานี้คงจะเร็วเกินไปที่จะบอกว่าจะลงโทษในลักษณะใด ต้องขอให้ได้ข้อมูลชัดเจนก่อน ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยก็จะนำข้อมูลของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประกอบการพิจารณาด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มหาวิทยาลัยมีเพียงข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ที่ระบุแค่ชื่อนักศึกษา ไม่มีการระบุนามสกุล ยังไม่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ขอสงวนในการที่จะให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษา เพราะอาจจะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่ออนาคตของเด็ก แต่ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงให้รู้โดยเร็วที่สุดเพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ

“เวลานี้คณะกรรมการฯได้เริ่มทำงานแล้ว ซึ่งกำชับให้รวบรวมข้อมูลทุกอย่างให้ครบถ้วน ระหว่างนี้หากผมได้รับข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะส่งไปให้ทางคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงต่อไป ทั้งนี้ ผมเข้าใจในเหตุผลระดับประเทศ แต่ส่วนหนึ่งผมเห็นว่าเราต้องฟังเหตุผลผู้ถูกกล่าวหาเช่นกัน ว่าทำไมต้องทำเช่นนั้นหรือเหตุผลอื่นอะไรหรือไม่ ผมเชื่อว่าคนเราทำอะไรต้องมีเหตุผลจึงอยากขอเวลาให้เราตรวจสอบ โดยจะเร่งให้เสร็จโดยไวเพราะเป็นเรื่องระดับประเทศ ซึ่งระหว่างการสอบข้อเท็จจริงไม่แน่ใจว่าจะต้องเรียกนักศึกษามาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสอบฯ แต่ถ้าหากไปสู่ขั้นตอนทางวินัยก็จะต้องเชิญนักศึกษาและผู้ปกครองมารับทราบแน่นอนถือเป็นขั้นตอนทางการปกครอง”อธิการ มรภ.พระนคร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ปรากฏมีชื่อนักศึกษาของมรภ.พระนคร เกี่ยวข้องการทุจริต รศ.ดร.พงศ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจ ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏนั้นต้องรับเด็กเสียโอกาส ด้อยโอกาสมากมาย เด็กเราเป็นเด็กยากจน เรามีหน้าที่ต้องปั้นดินให้เป็นดาว ซึ่งมหาวิทยาลัยตระหนักตลอดเวลาว่าต้องสร้างเด็กให้ดี มีคุณภาพของสังคม ไม่คอรัปชัน เพราะฉะนั้น ขอฝากว่าไม่อยากให้เอาชื่อเสียง มรภ.พระนคไปประกาศในเรื่องที่เสียหาย เพราะชื่อเสียงสถาบันถูกบ่มเพาะมานาน แต่เวลาพังๆเพียงคนไม่กี่คน ซึ่งตนเน้นย้ำอาจารย์ทุกคนเสมออย่าให้ชื่อมหาวิทยาลัยราชภัฏขึ้นบนสื่อเด็ดขาด โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องเสียหายปรากฎออกไปอนาคตใครจะอยากมาเรียน มาสนใจที่นี่เป็นการทำลายล้างชัดเจน ไม่อยากให้เกิดต่อไปอีก

“ชื่อเสียงมหาวิทยาลัยมีการสั่งสมบ่มเพาะมายาวนาน จะทำอะไรต้องนึกถึงคนที่อยู่ปัจจุบันทั้งศิษย์ปัจจุบัน ศิษย์เก่า รวมถึงผู้ปกครองด้วยว่าคิดอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่ก็แสดงความห่วงใยในเรื่องนี้ ตัวผมเองเมื่อรู้ข่าวก็สะอึกเหมือนกัน เพราะทำงานที่นี่ เรียนที่นี่ ก็รู้สึกเสียใจมากครับ”รศ.ดร.พงศ์ กล่าว

ผศ.ธีระศักดิ์ อาภาวัฒนาสกุล รองอธิการบดีมรภ.พระนคร กล่าวว่า ตนทราบเรื่องนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2559 เพราะอยู่ในช่วงปิดภาคเรียน นักศึกษากลับบ้าน และไม่มีการทำกิจกรรมใดๆ ภายในมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น ดังนั้นนักศึกษาจะไปทำอะไร มหาวิทยาลัยจะไม่ทราบ โดยมาทราบข่าวจากทางหน้าหนังสือพิมพ์ ว่าเป็นนักศึกษาจากมรภ.พระนคร และมีแต่ชื่อปรากฏ ไม่มีนามสกุล จึงยังไม่แน่ใจว่า เป็นนักศึกษาของมรภ.พระนครจริงหรือไม่ ส่วนระเบียบ การลงโทษนักศึกษา หากนักศึกษา ทำผิดจริงตามที่เป็นข่าว ถือเป็นการทำความผิดภายนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่มีระเบียบ ไปลงโทษตรงนี้ แต่ก็ยังดำเนินการตามระเบียบมรภ.พระนคร ว่าด้วยวินัยนักศึกษาพ.ศ.2548 ที่จะดำเนินการทางวินัยได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายของการแถลงข่าว รศ.ดร.พงศ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอเบ้าว่า “ผมรู้สึกเสียใจที่มีชื่อของมรภ.พระนคร ปรากฏในข่าวในทางที่เสียหาย” จากนั้นรศ.ดร.พงศ์ นั่งนิ่งไปสักพักก่อนจะหยิบผ้าเช็ดน้ำออกมาซับน้ำตา  ท่ามกลางสายตาสื่อหลายแขนง

ด้านดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการสอบสวน ตรวจสอบกระบวนการทุจริตการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์และเภสัชศาสตร์(รอบ2) ซึ่งเบื้องต้นในส่วนของนักเรียน นักศึกษาที่กระทำผิดครั้งนี้ อาจจะกันไว้เป็นพยาน ไม่ได้ฟ้องดำเนินคดีกับเด็ก แต่ในส่วนของกระบวนการทุจริตซึ่งมีกลุ่มติวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องนั้นจะดำเนินการฟ้องร้องให้ถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบที่ผ่านมา ขอยืนยันอีกครั้งว่าคนในของมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะเรื่องนี้เป็นการวางแผนนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทุจริตข้อสอบ ไม่ใช่ข้อสอบรั่ว อีกทั้งการทุจริตการสอบไม่จำเป็นต้องมีคนในของมหาวิทยาลัยเกี่ยวข้องก็สามารถเกิดขึ้นได้โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ ดังนั้น เรื่องการสอบ มหาวิทยาลัยมีกระบวนการบริหารจัดการสอบอย่างเข้มงวด รัดกุม โปร่งใส ยุติธรรมได้รับความไว้วางใจจากทุกภาคส่วน และที่สำคัญมหาวิทยาลัยไม่สนับสนุนการทุจริต แต่ถ้าหากมีคนในเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะไล่ออกอย่างแน่นอน

“ทั้งนี้ สำหรับการสอบในครั้งต่อไป วันที่31พ.ค.และ1มิ.ย.นี้ มหาวิทยาลัยได้ประกาศระเบียบการเข้าสอบไว้อย่างชัดเจน โดยนักเรียน ผู้ปกครองสามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย และเชื่อว่า การสอบครั้งนี้ไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น เพราะในการเข้าสอบ มหาวิทยาลัยจะมีมาตรการตรวจสอบอย่างละเอียด อีกทั้งจะไม่อนุญาติให้นักเรียนพกอุปกรณ์การสอบอย่างปากกา ดินสอ ยางลบ รวมถึงไม่ให้สวมใส่เครื่องประดับเข้าห้องสอบ โดยทางมหาวิทยาลัยได้เตรียมดินสอ2B และยางลบไว้ในห้องสอบเรียบร้อยแล้ว” ดร.อาทิตย์ กล่าวในที่สุด