อดีตนายกฯ 'บรรหาร' ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว

อดีตนายกฯ 'บรรหาร' ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว

"บรรหาร ศิลปอาชา" อดีตนายกฯ ถึงแก่อนิจกรรม ด้วยโรคหอบหืด รวมอายุ 83 ปี เตรียมเคลื่อนศพไปวัดเทพศิรินทร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ (23 เม.ย.) ว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว ด้วยอาการสงบในวัย 83 ปี 8 เดือน หลังเข้ารับการรักษาตัวเนื่องจากอาการภูมิแพ้ หอบหืด กำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ทางศิริราชพยาบาล จะเป็นผู้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง อย่างไรก็ตามทางญาติจะมีการเคลื่อนศพไปวัดเทพศิรินทร์ในวันเดียวกัน

สำหรับอาการป่วยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกนำตัวส่งมาที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นการด่วน เมื่อช่วงเช้าวันที่21เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากมีอาการของโรคภูมิแพ้ ทำให้หายใจไม่สะดวก ขณะนี้ บรรหารยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤต

​ย้อนไปเมื่อวันที่ 13 เม.ย. ที่บึงฉวาก สุพรรณบุรี ”บรรหาร” วัย 84 ปี ได้เปิดให้ชาวสุพรรณบุรี เข้ามาขอพรและรดน้ำขอพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย

​ดังที่ทราบ บรรหารเป็นนักการเมืองในดวงใจของชาวสุพรรณบุรีมานานร่วม 40 กว่าปี

​เมื่อหลายปีก่อน บรรหารได้สร้างพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร หรือ อุทยานมังกรสวรรค์ ริมฝั่งแม่น้ำสุพรรณบุรี เพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษของเขาที่มาข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากเมืองจีน

​แน่นอน บรรพบุรุษของบรรหาร ก็อพยพหนีความยากจนมาสร้างเนื้อสร้างตัวที่ริมฝั่งแม่น้ำสุพรรณบุรี

​ที่ตลาดทรัพย์สิน ต.ท่าพี่เลี้ยง เมืองสุพรรณ ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ไม่กี่เดือน เซ่งกิม กับ สายเอ็ง แซ่เบ๊ ได้ให้กำเนิดบุตรชายชื่อ เต็กเซียง แซ่เบ๊ หรือชื่อไทย บรรหาร ศิลปะอาชา

​บรรหารจบการศึกษาชั้นประถมที่จังหวัดสุพรรณบุรี เข้ากรุงเทพมาเรียนหนังสือชั้นมัธยม แต่ต้องหยุดเรียนไป เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนจะหันไปทำงานกับพี่ชาย

​ปี 2499 บรรหารก่อตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างเป็นของตัวเองชื่อ บริษัท สหะศรีชัยก่อสร้าง จำกัด ถัดจากนั้น บรรหารได้แต่งงานกับ “แจ่มใส” สาวลูกพ่อค้าแม่ค้าในตลาดท่าพี่เลี้ยง คนบ้านเดียวกัน

​บรรหารกับคุณหญิงแจ่มใส มีลูก 3 คน คือ กัญจนา ,ปาริชาติ และวราวุธ

​ปี 2533 บรรหารก่อตั้งบริษัท สหศรีชัย เคมีคอลล์ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายคลอรีนให้การประปาส่วนภูมิภาค

​บรรหารเริ่มสะสมความมั่งคั่งจากธุรกิจก่อสร้าง และขายเคมีภัณฑ์ให้การประปาฯ ทำให้เขากลายเป็น “นายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด”

​อีกด้านหนึ่ง บรรหารเริ่มเข้าสู่วงการเมือง โดยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี และได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ปี 2518

การเลือกตั้ง 4 เมษายน 2519 บรรหาร ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และได้เป็น ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย สมัยแรก

​นับตั้งแต่นั้นมา บรรหารได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.มาทุกสมัยที่มีการเลือกตั้ง

​บรรหาร ได้ก่อตั้งมูลนิธิบรรหาร-แจ่มใส พัฒนาการศึกษาภายในจังหวัดสุพรรณบุรี รวมถึงสร้างตึกคนไข้ตามโรงพยาบาลต่างๆ วัด สวนดอกไม้ สร้างถนนหนทาง หอนาฬิกา อาคารสาธารณประโยชน์ ฯลฯ

​ผลงานการพัฒนาท้องถิ่นที่โดดเด่น ทำให้สื่อมวลชนขนานนามสุพรรณบุรี เป็น “บรรหารบุรี”

​ปี 2538 บรรหารได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 อันเป็นความฝันสูงสุดของเขา

​ด้วยความรักของชาวสุพรรณ จึงมีการสร้างหอเกียรติยศ บรรหาร ศิลปอาชา ด้านหลังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุพรรณบุรี ภายในมีการจัดแสดงเรื่องราวประวัติชีวิตของ บรรหาร ศิลปอาชา ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงปัจจุบัน