'พงศพัศ'ถกปศุสัตว์ แก้ปัญหาหมาจรจัดแฟลตลาดยาว
“พงศพัศ”ถกปศุสัตว์-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ปัญหาหมาจรจัดแฟลตลาดยาว-จ่อชงสนช.แก้
ที่กองบัญชาการการศึกษา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร) เป็นประธานการประชุม กรณีสุนัขจรจัดในสถานที่พักแฟลตตำรวจ โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร สมาคมสงเคราะห์สัตว์ สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย และ สวัสดิการตำรวจ พร้อมคู่กรณีรายล่าสุด คือ นายยุทธศักดิ์ ธงงาม อายุ 34 ปีที่ถูกสุนัขกัดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า เหตุการณ์ล่าสุดที่มีสุนัขจรจัด ซึ่งมีคนให้อาหารเลี้ยงอยู่บริเวณแฟลตตำรวจส่วนกลางลาดยาว ระหว่างอาคารที่ 4 และ 5 แต่เป็นสุนัขไม่มีเจ้าของ ได้ไปกัด นายยุทธศักดิ์ จนได้รับบาดเจ็บ จึงต้องมีการหารือระหว่างกรมปศุสัตว์กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยเพื่อหาทางเเก้ปัญหา เเละบริหารจัดการสัตว์หรือสุนัขที่ถูกทอดทิ้ง ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นสุนัขตัวไหนที่กัด และได้รับการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้ามาแล้วหรือไม่ ซึ่งอาจจะไปทำร้ายผู้อื่นได้อีก โดยทางกรมปศุสัตว์ หรือทางกรุงเทพมหานคร จะนำเสนอปัญหาให้คณะกรรมมาธิการที่เกี่ยวกับการทอดทิ้งสัตว์พิจารณา
"ขณะนี้การแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงแค่ปลายเหตุ อย่างกรณีนายยุทธศักดิ์ ก็ได้มีการแจ้งความที่ สน.พหลโยธินแล้ว ในส่วนต่อไปก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน เพื่อหาเจ้าของสุนัขตัวนี้ที่ปล่อยปะละเลยมากัดประชาชนจนได้รับบาดเจ็บ หลังจากที่มี พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ออกมาบังคับใช้ ตำรวจก็เป็นเพียงปลายเหตุ ส่วนประเด็นหลักคือปัญหาการทอดทิ้งสัตว์ เราจะทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนไม่ทอดทิ้งสัตว์ ซึ่งตามกฏหมายใหม่แล้ว การทอดทิ้งสัตว์ มีความผิดทางกฏหมาย มีโทษปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท" พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวและว่า เตรียมนำเรื่องทั้งหมดเข้าสู่กรรมาธิการสัตว์ของสภานิติติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เพื่อหาทางแก้ปัญหา และขอฝากถึงประชาชนหากไม่มีความพร้อมอย่าคิดนำสัตว์มาเลี้ยง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ได้มอบเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือนายยุทธศักดิ์ จากกรณีที่ถูกสุนัขกัด จากนั้นได้นำสื่อมวลชนลงพื้นที่แฟลตลาดยาวเพื่อหาตัวสุนัขที่กัดนายยุทธศักดิ์ เพื่อจะนำไปให้ทางกรมปศุสัตว์ดูแล แต่กลับไม่พบ พบแต่คนที่คอยให้อาหาร จึงได้ทำข้อตกลงกับ น.ส.หมวย (นามสมมุติ) โดยหลังจากนี้ พล.ต.อ.พงศพัศจะเร่งให้มีการประชุมเพื่อหาข้อยุติว่า จะให้สุนัขอยู่ภายในแฟลตดังกล่าวต่อไปหรือไม่ หากผลออกมาอย่างไรต้องยอมรับ ทั้งนี้หากมีเหตุการณ์สุนัขกัดคนอีกก็จะนำสุนัขทั้งหมดออกนอกพื้นที่ทันที
ด้าน นพ.พงษ์เทพ เอกอุดมชัย ผู้อำนวยการส่วนบำบัดรักษาโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ ระบุว่า จากกรณีถูกสุนัขเข้ามาทำร้ายจะป้องกันได้ แต่จะมากน้อยขนาดไหนต้องป้องกันตัวเอง ด้วยการยืนขู่ก่อน แต่ถ้าประชิดตัวมากอาจใช้ไม้หรือสิ่งใกล้ตัวในการป้องกัน ซึ่งจะเข้าข้อยกเว้น (6) ของ พ.ร.บ. ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ส่วนเรื่องใช้ปืนต้องดูหลักฐานหลายๆอย่าง เพื่อพิจารณา สำหรับปัญหาทิ้งสัตว์ มีกฎหมายป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ม.23 ห้ามปล่อยและทิ้งโดยไม่ทีเหตุอันสมควร หากพบเห็น ปรับ 4 หมื่นบาท และถ้าไม่อยากเลี้ยงต่อ กรมปศุสัตว์มีรับรองแต่งบประมาณและพื้นที่ไม่อำนวย
ขณะที่ สพ.ญ.เบญจวรรณ สิทธณาสัย สำนักงานสัตวแพทย์ กทม. บอกว่า หน้าที่ กทม. ถ้าหากมีปัญหาร้องเรียนเกี่ยวกับสัตว์ คือจับไปกักดูอาการ ฉีดยา เลี้ยงจนหมดอายุขัย และดูว่าใครเป็นเจ้าของ เพื่อพูดคุยกัน ส่วนกรณีแฟลตตำรวจ มีการติดต่อกับหลายหน่วยงานแต่ไม่เป็นระบบ ทำให้ไม่ทราบจำนวนสุนัขที่ได้รับการดูแล
พ.ต.อ.ปจภณ รอดโพธิ์ทอง ในฐานะตำรวจดูแลแฟลตตำรวจส่วนกลาง อธิบายว่า แฟลตตำรวจมีทั้งหมด 7 แห่ง และจุดที่มีปัญหาคือแฟลตลาดยาว ซึ่งมีสุนัขประมาณ 40-50 ตัว และทุกเดือนมีการฉีดวัคซีน โดยที่ผ่านมาได้ทำหนังสือขอให้เขตจตุจักรจับไปไว้ที่ปลอดภัย แต่ปัญหาคือจับยาก
ขณะเดียวกัน น.ส.ชัญญา ผาสุพงษ์ หัวหน้าฝ่ายรับเรื่องร้องทุกข์ สมาคมสงเคราะห์สัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ไปดูพื้นที่แล้ว คนอยู่ร่วมกับสัตว์เยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนในครอบครัวตำรวจ มีการจัดระเบียบสุนัขค่อนข้างดี แต่ขอให้ผู้เสียหายชี้ตัวสุนัขตัวที่กัด รวมถึงพูดคุยกัน โดยยินดีนำสุนัขตัวที่กัดนายยุทธศักดิ์ ไปดูแลเฝ้าดูพฤติกรรมเอง ส่วนปัญหาการทิ้งสัตว์ ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกัน ใครรับผิดชอบให้ดูเป็นกรณีไป
ทั้งนี้นายโรเจอร์ โลหนันท์ เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว (ประเทศไทย) กล่าวว่า ยินดีเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อผลักดันทำให้เป็นสุนัขชุมชน ตัวไหนมีปัญหาก็เอาไปสถานสงเคราะห์เพื่อดูแล เพราะเรื่องสุนัขจรจัดเราเป็นทั้งต้นเหตุและปลายเหตุ ซึ่งจะมีสัตว์อีกหลายชนิดที่ถูกทอดทิ้ง และวิธีแก้ไม่ใช่การกำจัด แต่ต้องช่วยกันทำให้สุนัขเข้ามาในระบบ ส่วนเรื่องการรับผิดชอบนายยุทธศักดิ์ คงต้องใช้ประกันสังคมไปก่อน







