'องอาจ'เชื่อ'กรธ.' หาทางเบี่ยง เลี่ยงแรงปะทะ
“องอาจ” เชื่อ “กรธ.” หาทางเบี่ยง เลี่ยงแรงปะทะ ชี้3แนวทางคงจุดยืนของ กรธ.
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)พิจารณาข้อเสนอของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) เกี่ยวกับบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่ได้เป็นการพบกันครึ่งทาง แต่เป็นความพยายามหาทางเบี่ยงเลี่ยงแรงปะทะกับ คสช. โดยตรงซึ่งยังคงจุดยืนของ กรธ.ไว้ระดับหนึ่งดังนี้
1. กรณีการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ทาง กรธ.ยังยืนยันหลักการที่ให้พรรคการเมือง เสนอชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรี 3 ชื่อเหมือนเดิม แต่หากสภาผู้แทนราษฎรเลือกนายกฯ จากชื่อที่เสนอไม่ได้ กรธ. ก็หาทางเบี่ยงเลี่ยงด้วยการออกแบบกลไกให้มีนายกฯ คนนอกได้ตามที่ คสช.ต้องการ เมื่อเป็นดังนี้ โอกาสที่จะมีนายกรัฐมนตรีคนนอกก็มีความเป็นไปได้สูงขึ้น
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า2. ที่มาของ สว.สรรหา กรธ.ยังคงเปิดโอกาสให้ผู้นำเหล่าทัพ 6 ตำแหน่ง มานั่งเป็น ส.ว. เหมือนเดิม เพียงแต่ไม่ระบุ 6 ตำแหน่งโดยตรง โดยหาทางเบี่ยงเลี่ยงว่าให้ข้าราชการประจำเข้ามาได้ไม่เกิน 6 คนแน่นอนที่สุด โอกาสที่ผู้นำเหล่าทัพยังเข้ามาเป็น ส.ว.ตามช่องทางนี้ยังมีอยู่เหมือนเดิม.ส่วน ส.ว.สรรหา 250 คน ก็เอาตามที่ คสช. เสนอคือ มีกรรมการ 8 – 10 คน เลือก 200 คน ส่วนอีก 50 คน กรธ.ขอเอาตามแบบที่ กรธ.เคยเสนอไว้ แต่สุดท้ายก็ยังต้องไปให้กรรมการที่ คสช. แต่งตั้งมาเลือกอีก 50 คนอยู่ดี เท่ากับว่า คสช. ยังคงมีบทบาทสำคัญในการทำคลอด ส.ว.สรรหา 250 คน ส่วนที่ไม่ให้ ส.ว. สรรหามีอำนาจอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ถือว่าเหมาะสมที่ กรธ. รักษาจุดยืนไว้
อย่างไรก็ดีอยากให้ กรธ. ทบทวนอีกครั้งว่าจะให้กลไกใดที่ทำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมของการได้มาซึ่ง สว.มากขึ้น3. การยืนยันให้ใช้ระบบการเลือกตั้ง ส.ส. แบบจัดสรรปันส่วนผสมด้วยการลงคะแนนด้วยบัตรเลือกตั้งใบเดียวนั้น ก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย กรธ. ยืนยันแบบเดิมซึ่งจะทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้สิทธิแสดงเจตนารมณ์อย่างแท้จริง และเปิดโอกาสให้มีการซื้อเสียงมากขึ้น อยากฝากให้ กรธ.ได้ทบทวนเรื่องนี้ด้วย
นายองอาจ กล่าวว่า การพิจารณาของ กรธ. ครั้งนี้ก็ยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นข้อยุติ เพราะ คสช. อาจมีข้อเสนอใหม่ๆ เพิ่มเติม หรือยังยืนยันข้อเสนอเดิมๆ ที่กรธ.ไม่ยอมพิจารณาให้ เช่น อำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาให้ กรธ.พิจารณาอีกครั้งก็ได้ เพราะการที่ คสช. กำหนด สว.สรรหา 250 คนได้ และมีอำนาจอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยน่าจะเป็นความต้องการของ คสช. มากกว่า จึงต้องติดตามต่อไปว่า คสช. จะมีท่าทีเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร สุดท้ายคงต้องไปดูว่า กรธ.จะเขียนบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญออกมาแบบไหนอย่างไรในวันที่ 29 มี.ค.นี้ หวังว่า กรธ.จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ปรับปรุงแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวมอย่างแท้จริงและได้รับการยอมรับจากประชาชน







