กทม.ประชุมผู้ค้า 'ราชปรารภ' แจงแผนยกเลิกจุดผ่อนผัน

กทม.ประชุมผู้ค้า 'ราชปรารภ' แจงแผนยกเลิกจุดผ่อนผัน

กทม.ประชุมผู้ค้า "ราชปรารภ" แจงแผนยกเลิกจุดผ่อนผัน ผู้ขายขอ“จัดระเบียบ”แทน โวเป็นเสน่ห์เมือง-กระตุ้นศก. เคาะตัวแทน 20 คนถกใหม่รอบ 2

ที่ห้องประชุมใหญ่ โรงเรียนกรุงเทพการบัญชี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) พร้อมนายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกทม. ร่วมประชุมครั้งที่ 1 เพื่อทำความเข้าใจกับผู้ค้าถนนราชปรารภทั้ง 2 ฝั่ง เขตราชเทวี จำนวน 352 แผง เพื่อชี้แจงการยกเลิกผู้ค้าในจุดผ่อนผัน ย่านประตูน้ำ โดยพล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า เราเป็นคนไทยด้วยกัน มาวันนี้เพื่อทำความเข้าใจกับผู้ค้าตามนโยบายรัฐบาล ขอให้คุยกันด้วยเหตุผล เพื่อหาทางปรองดอง ถ้าถามว่าตนทำไปจะได้อะไรหรือไม่ ก็ขอบอกว่าไม่ได้อะไร ถ้าใครจะด่าจะว่าหรือจะบ่นก็ขอให้เห็นใจด้วย ขอให้คิดว่าตนไม่มีอะไรได้เสียเลย แต่การมาครั้งนี้เพราะหน้าที่ได้บังคับ ซึ่งตนกับผู้ค้าก็มีสิทธิเท่ากัน เพราะทางเท้า ไม่ใช่ทางขายของ ดังนั้นสิ่งที่ทำครั้งนี้ฝืนใจทำด้วย แต่ต้องทำเพื่อประเทศชาติ ขอให้ไว้ใจตน จะดูแลผู้ค้าให้ดีที่สุด

นายวัลลภ กล่าวว่า ในกรุงเทพฯมีประชากรที่ใช้ชีวิตทั้งหมด 11 ล้านคน กทม.ก็ไม่สบายใจที่จะหารือกับผู้ค้าวันนี้ ก็รู้ว่าผู้ค้ารู้สึกไม่สบายใจ แต่ผู้บริหารก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน แต่กทม.ก็ถูกบังคับจากประชาชนอีกส่วนหนึ่ง ที่ผ่านมากทม.ได้ดำเนินการกับอีกหลายพื้นที่ ซึ่งเมื่อวานนี้(21มี.ค.) ก็ได้หารือกับผู้ค้าปากคลองตลาดเสร็จสิ้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ค้าอย่างดี แต่ในพื้นที่บริเวณประตูน้ำ ราชเทวี ราชปรารถ เพชรบุรีนั้น ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา มีผู้ค้าขายบนทางเท้าเป็นจำนวนมาก แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นพื้นที่ที่ประชาชนใช้สัญจรเช่นกัน ดังนั้นอยากให้เข้าใจว่าการเป็นผู้รักษากฎหมายจึงมีความหนักใจมาก แต่ยืนยันว่ากทม.จะไม่ทอดทิ้งผู้ค้า

นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า การหารือวันนี้ผู้ค้าเป็นจุดที่ 41 ซึ่งก่อนหน้านี้พื้นที่ต่างๆ กทม.เข้าดำเนินการหมดแล้ว ซึ่งเป็นการพูดคุยกับผู้ค้าโดยไม่มีการทะเลาะกัน แต่ในพื้นที่ตรงนี้ประชาชนส่วนหนึ่งต้องลงมาบนผิวจราจร จึงมีการร้องเรียนว่ากทม.ปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร เพราะไม่เคยใช้ทางเท้าทั้งที่เสียภาษีเหมือนกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็มาเคยเดินในบริเวณนี้ก็ต้องมาเดินบนผิวจราจรเช่นกัน แต่การหารือครั้งนี้ผู้ค้าสามารถขายได้เหมือนเดิม แต่เขตราชเทวีจะจัดหาสถานที่ให้ 5 แห่ง รองรับได้ประมาณ 2,677 แผง มีความกว้าง 1.20 เมตร คูณ 1.30 เมตรในบริเวณใกล้เคียงกับจุดนี้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นผู้ค้าได้สลับสับเปลี่ยนความคิดเห็นต่อที่ประชุม อาทิ ยืนยันตลาดประตูน้ำเป็นเสน่ห์ของกรุงเทพฯ มีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งเป็นภาพรวมของประเทศในเรื่องเศรษฐกิจ ส่วนปัญหาจราจรที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากผู้ค้า ดังนั้นการที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มาดูปัญหา จึงจะมาโทษแผงลอยอย่างเดียวไม่ได้ ขณะที่เรื่องที่กทม.บอกว่าผู้ค้าจุดอื่นให้ความร่วมมือนั้นเป็นความร่วมมืออย่างเต็มใจหรือไม่ ขณะเดียวกันผู้ค้าเป็นห่วงว่าหากจะย้ายไปพื้นที่ใหม่จะต้องแบกรับต้นทุนมากขึ้นหรือไม่ นอกจากนี้อยากให้กทม.ให้โอกาสผู้ค้าหากพบว่าใครผิดกฎขอให้ยกเลิกแผงลอยได้ทันที อีกทั้งผู้ค้าขอให้กทม.จัดระเบียบแทน ซึ่งจะให้ความร่วมมือทุกอย่าง ทั้งนี้ ผู้ค้าส่วนใหญ่ยืนยันว่าการจัดระเบียบเป็นเรื่องที่ดีแต่ทุกคนต้องอยู่ร่วมกันได้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า อย่างไรก็ตามพล.ต.อ.อัศวินได้ขอให้ผู้ค้าถนนราชปรารภทั้ง 2 ฝั่งตั้งตัวแทนขึ้นมาฝั่งละ 5 คน รวม 10 คน และตั้งตัวแทนผู้ค้าบริเวณถนนเพชรบุรีจำนวน 2 ฝั่ง รวม 10 จากผู้จำนวน 265 แผง เพื่อกลับไปหารือกันก่อนมาประชุมร่วมกับกทม.อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 28 มี.ค.นี้ สำหรับพื้นที่ที่กทม.จัดหาไว้รองรับผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจำนวน 5 แห่งประกอบด้วย 1.ตลาดสิรินดาไนท์พลาซ่า ปากซอยเพชรบุรี 29 รองรับได้ 390 แผงค้า 2.บริเวณปากซอยเพชรบุรี 23 รองรับผู้ค้าได้ 186 แผง 3.บริเวณซอยหัสดิน ถนนราชปรารภ รองรับผู้ค้าได้ 295 แผง 4.ตลาดคึกคักค่าดินแดง ซอยท่าดินแดง 20 ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา รองรับผู้ค้าได้ประมาณ 500-600 แผง และ 5.ตลาดบางกะปิ รองรับผู้ค้าได้ 1,000 แผง

พล.ต.อ.อัศวิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ประชาชนก็มีเหตุผลที่อยากขายต่อ กทม.ก็อยากให้ขยับออกไป แต่ต้องคุยกันด้วยเหตุผล ซึ่งก็เข้าใจว่าบางพื้นที่ไกลเกินไป บางแผงมีราคา 200-300 บาท ผู้ค้าอาจจะสู้ไม่ไหว แต่กทม.จะหาทางเจรจา แต่ขณะนี้กทม.สามารถหาแผงค้าในบริเวณปรารถซอย 2 และเพชรบุรี 23 สามารถรองรับได้ 481 แผง ไม่ต้องจ่ายค่าแผง จ่ายเพียงค่าน้ำและค่าไฟ เพื่อหาทางออกให้ดีที่สุด ส่วนรายละเอียดจะให้ขายถึงเมื่อไหร่ต้องคุยอีกครั้งวันที่ 28 มี.ค. ซึ่งผู้ว่าฯกทม.สั่งมาแล้ววว่าต้องดูแลผู้ค้าให้มีจุดขายให้ดีที่สุด