จีนยันเขื่อนต้นแม่น้ำโขง เอื้อประโยชน์ให้กับประเทศปลายน้ำ

จีนยันเขื่อนต้นแม่น้ำโขง เอื้อประโยชน์ให้กับประเทศปลายน้ำ

รัฐบาลจีน ยันเขื่อนต้นแม่น้ำโขงในฝั่งจีนเอื้อประโยชน์ให้กับประเทศปลายน้ำ แก้ไขสภาวะภัยแล้ง-น้ำท่วมในประเทศปลายน้ำ ช่วยเดินเรือในแม่น้ำโขง

นายจีรศักดิ์ อินทะยศ ผู้ประสานงานกลุ่มรักษ์เชียงของ อ.เชียงของ จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า เราเรียกร้องไปยังคณะกรรมการแม่น้ำโขง MRC (ประกอบด้วย ไทย เวียดนาม ลาว กัมพูชา)ว่าจะต้องมีตัวแทนภาคประชาชนเข้าไปนั่งอยู่ในกรรมการ MRC เพราะที่ผ่านมา เราไม่เคยรับรู้เลยว่า จีน จะปล่อยน้ำจากเขื่อนเมื่อไหร่ คณะกรรมการ MRC ที่มีกระทรวงทรัพยากรน้ำ ร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วยก็ไม่เคยบอกชาวบ้านเลยว่าจะมีการกักน้ำ ปล่อย น้ำ ที่ผ่านมาเรารับรู้ว่า น้ำจะเพิ่มจากคนเรือของประเทศจีน และบางครั้งก็เมื่อน้ำมาถึงแล้ว  

"เราเรียกร้องมาเป็น 10 ปีแล้ว ให้มีสภาประชาชนในลุ่มน้ำโขงเข้าร่วมเป้นกรรมการ ประชาชนคือคนที่ได้รับผลกระทบ ในกรรมการ MRC มีแต่ตัวแทนหน่วยงานรัฐ ไม่มีภาคประชาชน และจีนจะมาอ้างว่า เป็นบุณคุณที่ปล่อยน้ำมาช่วยในหน้าแล้งนั้น เราไม่ได้ ต้องการน้ำในหน้าแล้งมาก อย่างจีนอ้างว่าปล่อย น้ำเพื่อช่วยประเทศในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง เพระาฉะนั้นเราต้องการข้อมูล การแจ้งเตือน ในทุกระยะ " เขากล่าว  

เขาบอกว่า ตอนนี้ เราได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำ คือผักที่ปลูกไว้เสียหาย และสาหร่ายน้ำจืด ที่ ขึ้นหลังจากน้ำโขงลดลงในระดับหนึ่ง ก็ตายหมด เมื่อจีนปล่อยน้ำมา เราต้องการให้น้ำโขง

มีการน้ำที่ปล่อยตามธรรมชาติขณะที่ เพียรพร ดีเทศน์ ผู้ประสานงานการรณรงค์ประเทศไทย International Rivers กล่าวว่าถึงเวลาแล้ว ที่ต้องมีกลไกระดับภูมิภาคลุ่มน้ำ ที่เอาผลกระโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง มานั่งพูดคุยกันว่า ในอนาคตแม่น้ำโขงจะเป้นอย่างไร จะมีอะไรมาทดแทนแม่น้ำโขงได้หรือไม่ และ 2. เขื่อนที่กำลังก่อก่อสร้างในอนาคต หรือมีแผนการก่อสร้างในอนาคตให้ยุติก่อน เพื่อมองผล

กระทบที่เกิดขึ้น ต่อระบบลำน้ำโขง ไม่ใช่ต่างฝ่ายต่างเร่งสร้าง เขื่อน และ3 จะทำอย่างไรให้รัฐบาลทุกประเทศพร้อมที่จะรับผิดชอบเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น  

"ครั่งแรกที่รัฐบาลจีน ทำหนังสือแจ้ง การปล่อยน้ำจากเขื่อนและส่งฑูต ชี้แจงประเศMRC" นวลละออ วงศ์พินิจวโรดม ผู้อำนวยการ สำนักบริหารจัดการลุ่มน้ำโขง กรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า นี่เป้นครั้งแรกที่ จีนมีหนังสือถึงประเทศต่างๆ ใน MRC ว่า จะปล่อยน้ำเพื่อบรรเทาความแห้งแล้ง ที่ผ่านมา จีน(ซึ่งไมได้เป้ฯสมาชิก MRC ) ไม่เคยบอกกล่าวประเทศสมาชิกว่าจะทำอะไร อย่างไร ซึ่งการกระทำของจีนในครั้งนี้ถือว่าเปิดเผยข้อมูลมาก และในจดหมายก็บอกว่ายินดีที่จะตั้งคณะทำงา ทำงาร่วมกัน กับทุกประเทศเพื่อแก้ไขปัญหา จากเดิมที่เขาไม่เคยคำนึงถึง  

"เราจะทราบเมื่อชาวบ้านที่ เชียงแสนแจ้งว่า มีน้ำขึ้นสูง และ เราจะให้เจ้าหนาที่ไปวัดระดับน้ำ แล้ว แจ้งเตือนไปยังประเทศสมาชิกMRC ต่อไป "

ทั้งนี้เธอบอกว่า เธอก็พึ่งทราบเรื่อง ว่า ทางรัฐบาลเวียดนามมีหนังสือไปขอให้จีนปล่อยน้ำ เนื่องจากผลกระทบจากความเค็ม ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำโขง(MRC)ที่เวียดนาม(15มีนาคมที่ผ่านมา) ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้แจ้งว่า จะมีการทำหนังสือไปที่จีน ซึ่งคาดว่า คนที่ทำหนังสือน่าจะเป้นกระทรวงต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม เธอบอกว่า ที่ผ่านมา ทาง MRC พยายามที่จะให้จีนเข้ามาร่วมกับประเทศสมาชิกลุ่มน้ำโขง แต่จีนก็ปฏิเสธ ที่จะเข้าร่วม ยกเว้น ที่จะมีการประชุม ระดับรัฐมนตรี ที่จะเชิญประเทศจีนและพม่า เข้าร่วมในขณะที่รัฐบาลจีนบอกว่า เขื่อนในน้ำโขงตอนบน สามารถเพิ่มระดับน้ำในน้ำโขงได้กว่า 65% ในหน้าแล้ง อีกทั้งยังสามารถลดระดับน้ำในแม่น้ำโขงช่วงหน้าน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วม   

Mr Li Zhengfan ผู้จัดการทั่วไป โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ของเขื่อนจิงหง บอกกับ นสพ. เดอะเนชั่น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าการมีเขื่อน ช่วยให้การเดินเรือในแม่น้ำโขงยังได้รับประโยชน์ ช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพราะเขื่อนสามารถปล่อยน้ำให้สามารถเดินเรือตลอดปีได้  

เช่นเดียวกับ นาย จง หย่ง อธิบดีกรมความร่วมมือนานาชาติทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เขาอ้างว่า เขื่อนจีนมีประโยชน์ในการควบคุมน้ำในลำน้ำโขง โดยสามารถเพิ่มน้ำในแม่โขงได้ถึง 70% เพื่อแก้ปัยหาแล้ง และลดน้ำในแม่โขงได้ 30% ในหน้าฝนทั้งนี้ จากข้อมูลของบริษัทไฮโดรล้านช้างพบว่ามีโครงการเขื่อนถึง 15 แห่งในแม่น้ำโขงตอนบนซึ่งอยู๋เขตประเทศจีน โดย 4 แห่งอยู่ในระดับการวางแผน 5 แห่งกำลังก่อสร้าง 6 แห่งสร้างเสร็จและเขื่อนจิ่งหง ซึ่งที่เมืองจิ่งหง หรือเชียงรุ้ง เขตปกครองสิบสองปันนา มณฑลยูนนานเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ของจีนที่ใกล้กับประเทศไทยที่สุด ห่างประมาณ 340 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้า ขนาด 1750 เมกกะวัตต์

ในสัปดาห์นี้จีนประกาศที่จะปล่อยน้ำ จากเขื่อนตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ถึง 10 เมษายน 2559 มายังอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เป็น 2 เท่าของปริมาณน้ำในสภาวะปกติ เพื่อช่วยเหลือปัญหาภัยแล้ง

โดยจีนอ้างว่า ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงยังคงมีแนวโน้มน่าวิตกมากขึ้นเป็นลำดับ ในการนี้เพื่อบรรเทาภัยแล้งและเพื่อป้องกันปัญหาดินเค็มเนื่องจากน้ำทะเลไหลทะลักบริเวณปากแม่น้ำโขง

รัฐบาลจีนจึงตัดสินใจจะปล่อยน้ำเพิ่มในปริมาณ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะเดียวกันจีนได้ส่งเจ้าหน้าของตนเอง ชี้แจงกับเจ้าหนาที่ประเทศ ต่างๆ ในลุ่มน้ำโขง ด้วย