ชี้ให้เกียรติ 'สมเด็จฯช่วง' แล้ว ฉะทนายตั้งแง่-เรื่องมาก
"พล.อ.ไพบูลย์" ย้ำดีเอสไอ ให้เกียรติ "สมเด็จฯช่วง" ที่สุดแล้ว ถ้าไม่ใช้สิทธิให้ปากคำภายหลังอย่ามากล่าวหาว่าไม่ให้ความเป็นธรรม
ฉะทีมทนายตั้งแง่-เรื่องมากจะให้พระเสียหาย
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปพบสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จฯช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช แต่ยังไม่ได้สอบปากคำ เนื่องจากฝ่ายกฏหมายของวัดขอให้ดีเอสไอกลับไปกำหนดประเด็นคำถามเป็นลายลักษณ์อักษร ส่งมาให้วัดปากน้ำพิจารณา ว่าไม่ให้ก็ไม่ให้ดีเอสไอทุกคนทำตามหน้าที่เขาก็มีสิทธิจะไม่ให้ปากคำ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็มีสิทธิการทำหน้าที่ของดีเอสไอครั้งนี้ ตนได้กำชับสั่งการให้นำดอกไม้ธูปเทียนแพไปกราบเป็นการให้ความเคารพให้เกียรติและให้สิทธิในการชี้แจงความบริสุทธิ์ ถ้าท่านไม่ใช้สิทธิ์ก็จบคดีก็เดินต่อไปหากพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแค่ไหนก็ดำเนินการกล่าวหาไปตามนั้น จะต้องวินิจฉัยตามแนวทางที่มีเพราะพนักงานสอบสวนมีข้อสงสัย และต้องการสอบถามให้สมเด็จฯช่วงได้ชี้แจงข้อมูล แต่ถ้าไม่ให้การแล้วจะมาบอกว่าเจ้าหน้าที่ไม่ให้ความเป็นธรรมไม่ได้ เพราะดีเอสไอได้ดำเนินการอย่างสมบูรณ์ให้เกียรติอย่างเต็มที่ในฐานะพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ หากเป็นบุคคลทั่วไปดีเอสไอสามารถออกหมายเรียกให้มาให้การก็จบแต่ครั้งนี้เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ ตนจึงสั่งการให้ส่งหนังสือขอนัดหมายไปก่อนเพื่อให้เกียรติ
“ผมอยากเตือนทนายความวัดปากน้ำ คุณทำอะไร ผมสั่งลูกน้องให้เกียรติแล้ว คุณกลับมาเรียกร้อง ปกติเขาไม่ทำหนังสือกัน การให้เกียรติของเรา คุณนำกลับนำเป็นข้อต่อรอง เราให้เกียรติทุกเรื่อง อย่ามาเล่นแง่ ผมไม่เชื่อว่าสมเด็จฯช่วงจะอยากทำเช่นนี้ แต่คิดว่าเรื่องนี้คนที่เรื่องมากคือทีมทนาย และทีมทนายนั่นเองที่กำลังทำให้สมเด็จฯช่วงเสียหายหรือไม่ ทนายของวัดผิดพลาดไปหรือไม่ หากสมเด็จฯช่วงจะทำหนังสือชี้แจงมาก็ให้ดำเนินการมา” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่าเรื่องนี้หากท่านตอบตามที่รู้เห็นมาก็จบแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้หากคดีช้าออกไปก็อย่าบอกว่าถูกดึงเรื่องคดีไม่เสร็จจนทำให้ไปผูกพันกับการแต่งตั้งสังฆราช







