ผบช.น.ยันคำสั่งย้าย ผกก.ทางด่วน2 หากไม่เร่งแก้ปัญหาจราจร

รรท.ผบช.น.ยืนยันคำสั่งย้าย ผกก.ทางด่วน 2 เป็นเตือนทุกพื้นที่ หากไม่เร่งแก้ไขปัญหาการจราจร
จากกรณี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. มีคำสั่งที่ 59/2559 วันที่ 29 ก.พ. เรื่องให้ให้ข้าราชการไปปฎิบัตราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทั้งนี้สืบเนื่องจากปัญหาการจรจาจรติดขัดสะสมบ่อยครั้งบริเวณทางลงด่วนดินแดงหน้าโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ถนนวิภาวดีรังสิต เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักรองรับการจราจรหนาแน่นจากเส้นทางหลายสายที่เชื่อมต่อสู่ใจกลางเมือง อาทิ แยกดินแดง อนุสาวรีย์ชัยฯ เส้นทางมุ่งหน้าถนนพระราม 9 แยกพญาไท แยกลาดพร้าว รวมถึงรองรับรถที่ลงจากทางด่วนโทลเวย์ ทั้งนี้ในช่วงเวลาเร่งด่วน ตั้งแต่ 07.00-09.00 น. ไม่มีตำรวจจราจรคอยทำหน้าที่โบกรถ และแก้ไขปัญหาดังกล่าว
จึงมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ขจรเกียรติ ศริพันธุ์ ผู้กำกับการ2(ศูนย์ควบคุมจราจรทางด่วนทางพิเศษ) กองบังคับการตำรวจจราจร ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจนครบาล(ศปก.น.) และมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ภูษิต วิเศษคามินทร์ รอง ผบก.จร. รักษาราชการแทน ตำแหน่งผู้กำกับการ 2 (ศูนย์ควบคุมจราจรทางด่วนทางพิเศษ) กองบังคับการตำรวจจราจร มีกำหนด 30 วันมีผลตั้งแต่วันนี้(29 ก.พ.)เป็นต้นไปหรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการกำชับและมีการออกคำสั่งให้ทุกสถานีตำรวจนครบาลตรวจสอบพื้นที่ของเขตรับผิดชอบในเรื่องของการลดปัญหาการจราจรติดขัด แต่กลับพบว่าในพื้นที่ของ สน.ทางด่วน 2 ที่เป็นเส้นทางบนทางด่วนพิเศษ พบปัญหารถติดขัดที่เกิดจากการขว้างเส้นทางจากรถที่พยายามมาเบียดเพื่อตัดเข้าช่องทางลง ซึ่งส่งผลกระทบให้กับรถในทางหลัก และในช่วงเวลาเร่งด่วนโดยเฉพาะเวลา 07.00 - 09.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่มีการจราจรหนาแน่น แต่กลับไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรของทาง สน.ทางด่วน 2
โดยก่อนหน้านี้ได้มีการเตือนให้แก้ไขมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังพบปัญหาเช่นเดิม จึงได้มีคำสั่งย้ายระดับผู้กำกับการ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้กำกับการทุกพื้นที่ มีความเด็ดขาดและจริงจังในการแก้ไขปัญหา และเพื่อให้ทราบว่าต่อไปนี้ ต้องเข้ามาตรวจสอบดูแลและแก้ไขในพื้นที่ที่มีปัญหาด้านการจราจรเพื่อบรรเทาความทุกข์ของประชาชน
อย่างไรก็ตาม จากนี้จะมีการตรวจสอบในทุกพื้นที่ หากพบว่ายังมีพื้นที่ไหนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง จะดำเนินการลงโทษทางวินัยโดยทันที เพื่อเป็นการสร้างมาตราฐานในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลต่อไป







