ประชาชนแห่ชมรถเบนซ์ วัดปากน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ"ดีเอสไอ" ตรวจพบกระบวนการนำเข้ารถของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจาย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผิดกฏหมายหลายฉบับ แต่บรรยากาศภายในวัดปากน้ำภาษีเจริญ ก็ยังคงดำเนินไปอย่างปกติ ประชาชนเดินทางมาดู รถเมอร์สิเดส เบนซ์ ภายในพระมหาเจดีย์มหารัชมงคลอย่างเนืองแน่น สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ก็ยังคงดำเนินกิจวัตรเหมือนเช่นทุกวัน คือ ได้เทศนาธรรมแก่พุทธศาสนิกชน ศิษยานุศิษย์ ตั้งแต่เช้า รับภัตตาหารเพล จากการถวายโดยพุทธศาสนิกชนเป็นปกติ

พระครูพิศาลสังฆพินิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ กล่าวว่า หลังมีคดีความประชาชนก็ยังคงเดินทางมาต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ลูกศิษย์ทุกคนยังคงปฏิบัติทุกอย่างตามเดิม ถึงแม้จะมีข่าวออกมา แต่ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อก็ยังคงเดินทางมาเหมือนเดิม

"คนที่มาเยอะขึ้นเพราะได้ยินข่าวคราว อยากมาดูเจดีย์เพราะว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กราบไหว้มีของที่คนรุ่นใหม่ไม่เคยเห็นเช่นศรีฟัดหรือเครื่องฟัดข้าว ชาวนาเอามาแยกข้าวและแยกแกลบกับข้าวออกจากกันเพราะว่าแกลบมีราคา ข้าวก็มีราคาเช่นเดียวกัน หมกน้ำแข็งเพื่อรักษาอุณภูมิไม่ให้ละลายไว้ คนที่มาส่วนหนึ่งเพราะข่าว ส่วนหนึ่งอยากเห็นความจริง ส่วนหนึ่งไม่เคยมาก็อยากจะมา ก็เลยทำให้คนมากขึ้นและตอนนี้ทางวัดก็ยังปกติทุกอย่าง"

พระครูพิศาลสังฆพินิต กล่าวอีกว่า หลวงพ่อขยันกว่าลูกวัดตี 5 ได้ยินเสียงหลวงพ่อแล้ว กิจวัตรของท่านไม่เคยบกพร่อง เช้าลงฉันเช้าที่วัด เนื่องจากพระที่วัดมี 400-500 รูป ถ้าออกบิณฑบาตร จะทำให้วัดใกล้เคียงก็จะลำบากด้วยภัตตาหารเพราะคนใส่น้อยกว่าพระที่ออกบิณฑบาตร แต่เดิมเมื่อหลวงพ่อวัดปากน้ำ หรือ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ) มรณะภาพใหม่ๆ คนทำบุญที่วัด 100-200 บาท เพราะว่าเสาหลักล่ม สิ้นพ่อเหมือนคอหัก สิ้นแม่เหมือนแพแตก แต่ว่าพี่น้องรักกัน ช่วยประคับประคองเลี้ยงตามที่มี ภัตตาหารปัจจุบันเลี้ยงตัวเองได้ ถนนหนทางเดินทางได้สะดวกสบาย เงินที่ได้มาก็มาจากภัตตาหารส่วนใหญ่ ฆราวาสปกติมาทำบุญเรื่องรถไม่เคยถาม หากสนใจก็เข้าไปดูเอง

ในส่วนของพระมหาเจดีย์พระครูพิศาลสังฆพินิจ กล่าวว่า เจดีย์เป็นของเป็นไม่ใช่ของตายมีชีวิตชีวาคนที่มาจะมานั่งภาวนาและเป็นบรรยากาศที่น่าทำความสงบความสงบ มีประโยชน์อย่างน้อย 4 อย่าง 1.ทำให้มีความสุขในปัจจุบัน 2.ทำให้เห็นความจริงของชีวิต 3.ทำให้มีใจอยู่กับเนื้อกับตัว 4.ทำให้ขจัดความขุ่นข้องหมองใจไปได้ นี่คือประโยชน์ของความสงบ

"คนที่เดินทางมาวัดปากน้ำมาเพราะหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ เพราะลูกหลานรักหลวงพ่อเหมือนพ่อแม่เรา ท่านก็ศักดิ์สิทธิ์ ญาติโยมต้องดูแลท่านให้ดีทำไมลูกหลานถึงรักหลวงพ่อ เพราะหลวงพ่อรักตามที่ลูกเป็น แม้แต่ตัวเราเองรักไม่มีเงื่อนไขคำสอนของท่านไม่เอาเปรียบสอนให้ใจอยู่กับเนื้อกับตัว ทำหน้าที่ในตัวของเราให้ดี และไม่ห่วงว่าจะต้องเอาน้ำเอาข้าวมาให้ ห่วงแค่ต้องกตัญญูเพราะฉะนั้นอย่าทิ้งพ่อแม่ โดยงานที่จะต้องทำมี 6 อย่าง 1.งานเก่าอย่าทิ้งคือพ่อแม่ 2.งานใหม่ต้องทำคือความดี 3. งานประจำก้าวหน้า 4.งานส่วนตัวไม่เสีย 5.งานส่วนรวมต้องได้ 6.งานทางใจต้องสงบ" พระครูพิศาลสังฆพินิจ กล่าว

ทางด้าน นางญาณภัทร ฮะบุญมี ประชาชนที่มาเยี่ยมชมวัดปากน้ำภาษีเจริญ กล่าวว่า ช่วงนี้มาวัดแทบทุกวัน มาใส่บาตรนั่งสมาธิ และไปที่หอฉันท์ ส่วนพิพิธภัณฑ์นั้นไม่เคยเดินลงมาข้างล่าง เห็นว่ามีข่าวเกี่ยวกับรถก็เลยอยากมาดูรถว่าเป็นยังไง ซึ่งก็ไม่มีอะไร ฉันก็เฉยๆ เรื่องพวกนี้เราไม่ค่อยยุ่งอยู่แล้ว

ในส่วนของประชาชนคนอื่นๆ เช่นกลุ่มอาจารย์ที่เดินทางมา มีนางวันทนา พัฒนผลินทร์, นางสุวรรณา วิศวแสงสุข, นางนพกร ลอยมา และนางวิไล สาวประเสริฐ ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกตนได้เรียนหนังสือจบมาจากโรงเรียนสตีอัปสรสวรรค์ จนจบเป็นอาจารย์ และตอนนี้เกษียณอายุราชการแล้ว ตลอดชีวิตที่ผ่านมาได้เห็นจริยวัตรที่งดงามของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ใครว่าถูกก็ว่าไปตามถูก ใครว่าผิดก็ว่าไปตามผิด ตอนนี้มีกระแสข่าวออกมาแบบนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจก็ได้เข้ามากราบไหว้เยี่ยมเยียนท่านบ่อยขึ้น จากแต่ก่อนมาทุกเดือนแต่ปัจจุบันมาแทบจะทุกอาทิตย์ และยังกล่าวอีกว่าท่านเป็นพระญาติโยมนำของมาถวายจะให้ไม่รับได้อย่างไร จะปฏิเสธก็ไม่ได้ และยืนยันว่ารถยนต์ที่เป็นปัญหานั้นมีลูกศิษย์นำมาถวาย ท่านไม่ได้ซื้อมาเอง

ส่วนรถยนต์ที่ดีเอสไอตรวจสอบแล้วว่าผิดกฎหมายจริง ก็ยังคงตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ของวัดปากน้ำภาษีเจริญ ยังไม่มีการมายกรถออกไปตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด แต่ก็ต้องรอดูท่าทีว่าทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการต่อไปอย่างไร