'มีชัย'รับประชามติ31ก.ค. คลาดเคลื่อนไม่เกิน2-3สัปดาห์

'มีชัย'รับประชามติ31ก.ค. คลาดเคลื่อนไม่เกิน2-3สัปดาห์

"มีชัย" รับประชามติ 31 ก.ค. คลาดเคลื่อนไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ ชี้เป็นเรื่องปกติขอสังคมประชาธิปไตยที่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ากฎหมาย ระบุว่าวันเลือกตั้งอาจจะเป็นวันที่ 31 ก.ค. ว่า คาดว่าวันการทำประชามติคงจะเป็นช่วงนั้น ไม่น่าคลาดเคลื่อน 2 - 3 อาทิตย์ ส่วนกรณีที่รัฐธรรมนูญฉบับเก่ามาใช้ ในกรณีที่ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามตินั้น ตนมองว่ายังอีกไกล อย่าเพิ่งคิดถึง ทำปัจจุบันให้ดีก่อน เรื่องอนาคตยังไม่มีใครคิดได้ดีกว่า เรื่องอนาคตยังไม่มีใครจะคิดได้

ทั้งนี้นายมีชัยกล่าวถึงข้อเสนอของนายวิษณุที่เสนอให้เปิดเวทีอย่างกว้างขวางให้ประชาชนและนักการเมืองเสนอความเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญว่า ส่วนตัวยังไม่เห็นรายละเอียด แต่คิดว่าเป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปไตย ที่จะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ขอว่าอย่าบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญเป็นอันใช้ได้ ที่ผ่านมา กรธ.พยายามจะอาศัยเวทีต่างๆชี้แจงอยู่เสมอในประเด็นที่ถูกบิดเบือนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ส่วนจะการบิดเบือนกระทบกับการทำประชามติไหม ก็ขึ้นอยู่กับว่า กรธ.จะสามารถชี้แจงได้ทันและทำให้ประชาชนได้รับรู้ข้อเท็จจริงได้ทั่วถึงหรือไม่ ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูดว่าควรจะเทียบข้อดีและข้อเสียกับรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา เรื่องนี้ขอยืนยันว่า กรธ.ได้ทำอยู่แล้ว

ในส่วนมีข้อวิจารณ์ว่าระบบเลือกตั้งของ กรธ. ทำให้พรรคเล็กอ่อนแอนั้น นายมีชัยกล่าวว่าฝั่งพรรคใหญ่ก็บอกว่าทำให้เขาอ่อนแอ พรรคเล็กก็บอกว่าทำให้เขาอ่อนแอ ตรงนี้จะเอายังไง ตนก็ตอบไม่ถูก แต่ขอยืนยันว่าเรื่องระบบเลือกตั้งนั้นมีวัตถุประสงค์ให้คะแนนเสียงของประชาชนมีความเท่าเทียมกัน ซึ่งความเห็นของประชาชนต่อระบบเลือกตั้งของ กรธ.นั้น เวลาไปที่จังหวัดใด ส่วนใหญ่เขาก็ชอบกันทุกคน ส่วนข้อวิจารณ์เรื่ององค์กรอิสระว่า กรธ. ทำให้เข้มแข็งเกินไป ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนนั้น นายมีชัยกล่าวว่า ตนคิดว่าองค์กรอิสระนั้นไม่ได้เป็นที่รังเกียจของประชาชน แต่คงเป็นที่ไม่ชอบใจของนักการเมืองบางส่วน เพราะหน้าที่เขาก็ตรวจสอบตามกฎเกณฑ์ที่ฝ่ายนิติบัญญัติได้วางไว้ และก็ไม่ได้มีอำนาจมากไปกว่าในรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 แต่ที่มากขึ้นก็คือเรื่องของคุณสมบัติของ ส.ส. ส.ว.และคณะรัฐมนตรี