ย้อนสถิติ5ปี เด็กไทยสอบตก วิชาสามัญกราวรูด

ย้อนสถิติ5ปี เด็กไทยสอบตก วิชาสามัญกราวรูด..โจทย์ใหญ่การศึกษาไทย?
เมื่อ “เอนทรานซ์” ระบบรับบุคคลเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยของประเทศไทย หรือ “ระบบแพ้คัดออก” ได้ถึงกาลอวสานหลังถูกใช้มานานร่วม 40 ปี ได้ส่งไม้ต่อให้ "แอดมิชชั่นส์" (Admission) หรือ “การรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา” มาทำหน้าที่แทน แต่ระบบดังกล่าวล้มลุกคลุกคลานมาตลอด ทำให้นักการศึกษาผนึกกำลังพัฒนาการระบบมาเป็นลำดับ เพื่อคัดคนเข้าเรียนได้ตรงตามความต้องการของมหาวิทยาลัยให้ได้มากที่สุด
เมื่อแรกนำมาระบบ "แอดมิชชั่นส์" พิจารณาจากผลสอบโอเน็ต คะแนนสอบแกต/แพต และคะแนนเฉลี่ย ม.ปลาย ทั้งนี้ เดิมนักเรียนชั้นม.6 ต้องสอบโอเน็ต7 วิชา ต่อมาลดเหลือ 5 วิชาได้แก่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และวิชาสังคมศึกษา
ขณะเดียวกัน การรับนักศึกษาผ่านระบบโควตา หรือ ระบบรับตรงผ่านเคลียริ่งเฮาส์นั้น เริ่มเมื่อการศึกษา 2555 เดิมนักเรียนที่กำลังเรียนชั้นม.6 ต้องสอบ7 วิชาหรือที่ เรียกกันว่า “สอบวิชาสามัญ7วิชา” ได้แก่ วิชาภาษาไทย วิชาภาษาอังกฤษ วิชาสังคมศึกษา วิชาคณิตศาสตร์ วิชาฟิสิกส์ วิชาเคมี วิชาชีววิทยา
ดูเหมือนว่า การสอบวิชาสามัญ 7 วิชา ถูกโจมตีจากนักสงคมสงเคราะห์และนักวิชาการศึกษาว่าระบบดังกล่าว เป็นการขยายช่องว่างระหว่างเด็กรวยกับเด็กจนให้กว้างมากยิ่งขึ้น เด็กที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยมีฐานะดีเท่านั้นถึงมีโอกาสเดินสายวิ่งรอกสอบรับตรงในมหาวิทยาลัยต่างๆ
“มีเด็กม.6เดินสายวิ่งรอกสอบตรงแต่ละมหาวิทยาลัย แต่ละมหาวิทยาลัย แต่ละคณะ แต่ละสาขาวิชา จากผลศึกษาพบว่าเด็กที่ครอบครัวมีฐานะดี จะสนับสนุนค่าเดินเดิน ค่าที่พัก ค่ากิน ให้กับลูกในการเดินทางไปสอบตรงแต่ละมหาวิทยาลัย เช่นเด็กอยู่ขอนแก่นบินมาสอบตรงจุฬาฯ เด็กอยู่ภูเก็ตบินขึ้นไปสอบตรงที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือ เด็กจากกรุงเทพฯบินไปสอบตรงที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เฉลี่ยแล้วพบว่าต้นทุนในการเดินสายสอบตรงอยู่ระหว่าง 50,000-200,000 บาท แต่เด็กที่ยากจนหมดสิทธิ์ในการเดินสายสอบรับตรง เพิ่มความเลื่อมล้ำในสังคมไทยมากยิ่งขึ้น ” ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการศึกษา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุ
เพื่อลดการวิ่งรอกสอบจนเกิดปัญหาการ “กั๊กสิทธิ์” และเพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ในที่สุดได้มีการปรับเปลี่ยนการสอบวิชาสามัญ จาก 7 วิชาเป็นสอบวิชาสามัญ 9 วิชาขึ้น เป็นครั้งแรกในปีการศึกษา 2559
ผลสอบวิชาสามัญ นักเรียนชั้นม.6 จะนำคะแนนไปยื่นสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย คณะ/สาขาวิชา ต่างๆ เพื่อให้มหาวิทยาลัยนำคะแนนไปใช้ประกอบในการรับบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาในระบบรับตรงผ่านเคลียริ่งเฮ้าส์ ซึ่งระบบเคลียริ่งเฮ้าส์ หมายถึง ระบบการสอบรับตรงกลางร่วมกันของมหาวิทยาลัย โดยใช้ข้อสอบของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.)
ย้อนดูผลสอบวิชาสามัญ 5 ปี
ไล่เลี่ยงมาตั้งแต่ปีการศึกษา 2555 พบว่าการสอบวิชาสามัญ 7 วิชา ถือว่าเป็นการสอบครั้งแรก และจากการดูผลสอบในภาพรวมวิชาที่นักเรียนทำคะแนนเฉลี่ยได้สูงสุดและเกินครึ่ง จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน คือวิชาภาษาไทย 54.61 ส่วนวิชาที่นักเรียนทำคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด คือคณิตศาสตร์ 19.92 แต่การสอบครั้งนี้มีนักเรียนที่ทำคะแนนได้เต็ม 100 ได้แก่ วิชาฟิสิกส์ 6 คน และคณิตศาสตร์ 1 คน
สำหรับช่วงคะแนนที่นักเรียนส่วนใหญ่ทำได้และคะแนนเฉลี่ยในแต่ละวิชาคิดจากคะแนนเต็ม 100 ดังนี้ ภาษาไทย ผู้เข้าสอบ 126,528 คน ช่วงคะแนนที่ทำได้มากที่สุด 50.01-60.00 จำนวน 41,529 คน คะแนนเฉลี่ย 54.61 วิชาสังคมศึกษา เข้าสอบ 130,369 คน ช่วงคะแนน 20.01-30.00 จำนวน 48,700 คน คะแนนเฉลี่ย 32.97 วิชาภาษาอังกฤษ เข้าสอบ 126,769 คน ช่วงคะแนน 20.01-30.00 จำนวน 55,723 คน คะแนนเฉลี่ย 28.43 วิชาคณิตศาสตร์ เข้าสอบ 118,680 คน ช่วงคะแนน 10.01-20.00 จำนวน 56,804 คน คะแนนเฉลี่ย 19.92 วิชาฟิสิกส์ เข้าสอบ 82,172 คน ช่วงคะแนน 10.01-20.00 จำนวน 35,912 คน คะแนนเฉลี่ย 23.54 วิชาเคมี เข้าสอบ 79,875 คน ช่วงคะแนน 10.01-20.00 จำนวน 29,373 คน คะแนนเฉลี่ย 25.75 และวิชาชีววิทยา เข้าสอบ 79,276 คน ช่วงคะแนน 20.01-30.00 จำนวน 36,203 คน คะแนนเฉลี่ย 32.75
ปีการศึกษา2556 ภาพรวมคะแนนสอบ 7 วิชาสามัญเฉลี่ยใกล้เคียงกับปี2555 โดยวิชาที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ ภาษาไทย เฉลี่ย 50.43 รองลงมาคือ วิชาชีววิทยา เฉลี่ย 30.40 วิชาภาษาอังกฤษ เฉลี่ย 30.01 ฟิสิกส์เฉลี่ย 29.84 สังคมศึกษา เฉลี่ย 29.18 เคมี เฉลี่ย 25.38 และคณิตศาสตร์ ได้คะแนน เฉลี่ยต่ำสุด 20.95 ตามลำดับ
สำหรับผู้เข้าสอบที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละวิชา พบว่า วิชาฟิสิกส์ มีผู้สอบได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน จำนวน 1 คน คณิตศาสตร์ ได้เต็ม 100 คะแนน 5 คน ภาษาอังกฤษ คะแนนสูงสุด 92.5 คะแนน จำนวน 1 คน ภาษาไทย สูงสุด 92 คะแนน 3 คน เคมี สูงสุด 92 คะแนน 3 คน ชีววิทยา สูงสุด 92 คะแนน 1 คน และสังคมศึกษา สูงสุด 70 คะแนน 2 คน ทั้งนี้จากการเทียบเคียงกับผลคะแนนสอบเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่า ค่าคะแนนเฉลี่ยมีความใกล้เคียงกัน สำหรับค่าความยากของข้อสอบในปีนี้ก็ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่จะมีวิชาสังคมศึกษาที่ข้อสอบยากขึ้น เพราะมีการคิดวิเคราะห์มากขึ้น
ปีการศึกษา 2557 พบว่า ช่วงคะแนนที่นักเรียนส่วนใหญ่ทำได้ และคะแนนเฉลี่ยในแต่ละวิชาคิดจากคะแนนเต็ม 100 มีดังนี้ ภาษาไทย เข้าสอบ 139,277 คน คะแนนเฉลี่ย 54.35 สังคมศึกษา เข้าสอบ 135,702 คน คะแนนเฉลี่ย 39.42 ภาษาอังกฤษ เข้าสอบ 140,355 คน คะแนนเฉลี่ย 31.05 คณิตศาสตร์ เข้าสอบ 130,725 คน คะแนนเฉลี่ย 25.39 ฟิสิกส์ เข้าสอบ 83,854 คน เคมี คะแนนเฉลี่ย 27.66 เข้าสอบ 85,085 คน และชีววิทยา เข้าสอบ 84,611 คน คะแนนเฉลี่ย 28.56 แต่ผลการทดสอบครั้งนี้วิชาที่มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด และเกินครึ่งจากคะแนนเต็ม 100 คะแนน มีเพียงวิชาเดียว คือ ภาษาไทย 54.35 ส่วนวิชาที่มีคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด คือ คณิตศาสตร์ 25.39 ซึ่งการสอบครั้งนี้มีนักเรียนทำคะแนนได้เต็ม 100 คะแนน ในวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมี และมีนักเรียนทำคะแนนได้ 0 คะแนน ในวิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และฟิสิกส์
ไม่เพียงเท่านั้น การสอบวิชาสามัญ 7 วิชา ประจำปีการศึกษา 2557 กลายเป็นเรื่อง “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” เมื่อนักเรียนได้นำข้อสอบ มาโพสต์ตามเว็บไซต์ต่างๆ โดยระบุว่าข้อสอบบางข้อไม่มีคำตอบ หรือมีคำตอบหลายข้อ บางข้อโจทย์กำกวม ทำให้นักเรียนเกิดความสับสน
แต่ รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (ผอ.สทศ.)ออกมาตอบโต้ทันทีว่ า”ผมยืนยันว่า ข้อสอบของ สทศ.ไม่ผิดพลาดแน่นอน เนื่องจากเป็นข้อสอบที่ออกโดยผู้ทรงคุณวิฒิจากสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ รวมถึงมีระบบการตรวจข้อสอบทั้งก่อนและหลังสอบที่เป็นไปตามมาตรฐาน"
ดังนั้น การสอบอบ7วิชาสามัญ ในปีการศึกษา2558 ยังดำเนินการต่อไปและพบว่าวิชาภาษาไทย ผู้เข้าสอบ 149,384 คน คะแนนเต็ม 100 เฉลี่ย 58.66 สูงสุด 98.00 ต่ำสุด 8,วิชาสังคมศึกษา ผู้เข้าสอบ 147,879 คน คะแนนเต็ม 100 เฉลี่ย 35.99 สูงสุด 78.00 ต่ำสุด 6,ภาษาอังกฤษ ผู้เข้าสอบ 150,210 คน คะแนนเต็ม 100 เฉลี่ย 29.33 สูงสุด 95 ต่ำสุด 0,วิชาคณิตศาสตร์ ผู้เข้าสอบ 136,033 คน คะแนนเต็ม 100.00 เฉลี่ย 20.35 สูงสุด 100 ต่ำสุด 0,วิชาเคมี ผู้เข้าสอบ 87,184 คน คะแนนเต็ม 100 เฉลี่ย 31.16 สูงสุด 100 ต่ำสุด 4,วิชาชีววิทยา ผู้เข้าสอบ 93,203 คน คะแนนเต็ม 100 เฉลี่ย 29.05 สูงสูด 88 ต่ำสุด 0
ล่าสุด ปีการศึกษา 2559 ผลสอบ9วิชาสามัญ พบว่าช่วงคะแนนที่นักเรียนส่วนใหญ่ทำได้ และคะแนนเฉลี่ยในแต่ละวิชาคิดจากคะแนนเต็ม 100 มีดังนี้ ภาษาไทย เข้าสอบ 179,968 คน คะแนนเฉลี่ย 56.65 คะแนนสูงสุด 100.00 ต่ำสุด 6.00 สังคมศึกษา 176,170 คน คะแนนเฉลี่ย 34.96 คะแนนสูงสุด 86.00 ต่ำสุด2.00 ภาษาอังกฤษ เข้าสอบ 182,588 คน คะแนนเฉลี่ย 30.97 คะแนนสูงสุด 97.50 ต่ำสุด1.25 คณิตศาสตร์1 เข้าสอบ 136,886 คน คะแนนเฉลี่ย 28.70 คะแนนสูงสุด 100.00ต่ำสุด4.00ฟิสิกส์ เข้าสอบ 104,922 คน คะแนนเฉลี่ย 22.90 คะแนนสูงสุด 100.00ต่ำสุด0.00 เคมี เข้าสอบ100,840 คะแนนเฉลี่ย 24.52 คะแนนสูงสุด 98.00 ต่ำสุด0.00 ชีววิทยา เข้าสอบ 108,138 คน คะแนนเฉลี่ย 27.32 คะแนนสูงสุด92.50 ต่ำสุด 2.50 คณิตศาสตร์2 เข้าสอบ 29,596 คน คะแนนเฉลี่ย 20.88คะแนนสูงสุด 98.00 ต่ำสุด0.00 และวิทยาศาสตร์ทั่วไป เข้าสอบ 37,528 คน คะแนนเฉลี่ย 26.43คะแนนสูงสุด 74.00ต่ำสุด 4.00
ภาพรวมผลสอบวิชาสามัญของเด็กไทย ในรอบ5 ปี จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน มีเพียงวิชาภาษาไทยวิชาเดียวที่ค่าเฉลี่ยผลสอบเกินครึ่ง หรือ “สอบผ่าน” ส่วนวิชาที่เหลือพบว่าค่าเฉลี่ยไม่ผ่านมาตรฐาน หรือ “สอบตก” เฉพาะวิชาภาษาอังกฤษพบว่า คะแนนเฉลี่ยในรอบ5ปีไม่เคยถึง 50 คะแนน ดังนี้ ปี2555 ค่าเฉลี่ย 28.43คะแนน ปี2556 ค่าเฉลี่ย30.01 คะแนน ปี2557 ค่าเฉลี่ย 31.05 คะแนน ปี2558 ค่าเฉลี่ย 29.33 คะแนน และปี2559 ค่าเฉลี่ย 30.97
ว่ากันว่า การรับนักศึกษาเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ผ่านระบบแอดมิชชั่นส์ ผ่านระบบระบบโควตาหรือระบบรับตรงผ่านเคลียริ่งเฮาส์ และผ่านระบบรับตรงที่แต่ละมหาวิทยาลัยเปิดรับ2-3 รอบนั้น กำลังจะถูกยกเครื่องอีกครั้งหลังพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับเรื่องร้องเรียนถึงการ “กั๊กสิทธิ์” ยังไม่หมดไปจากระบบดังกล่าว ทำให้เด็กที่พ่อแม่มีฐานะยังเป็นกลุ่มที่มีโอกาสมากกว่าเด็กจนที่มาจากครอบครัวยากจน
ทว่า ภารกิจ “ยกเครื่อง” ระบบคัดคนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยกำลังกลายเป็นเผือกร้อนๆ ที่ “สสค.” หรือ สำนักงานส่งสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน ยุค “นพ.สุภกร บัวสาย” นั่งหัวโต๊ะเป็น “ผู้จัดการ” นะขอบอก!
ภาพจาก-moe.go.th







