'ประวิตร'สั่งปลัดกลาโหม ตั้งคกก.ตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์

'ประวิตร'สั่งปลัดกลาโหม ตั้งคกก.ตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์

"พล.อ.ประวิตร" สั่งปลัดฯกลาโหม ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง "อุทยานราชภักดิ์" เพื่อความโปร่งใส ยันไม่ปกป้องคนผิด

เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงโครงการอุทยานราชภักดิ์ ว่าพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และอดีตผบ.ทบ. ยังไม่ขอพูดอะไรเพิ่มเติม ทั้งนี้จากการสอบสวนของกองทัพบก โดยพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่ผ่านมาในภาพรวม ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด แต่อาจมีความเข้าใจที่หลากหลาย ตามที่มีกระแสข่าวในสังคม ซึ่งเรื่องนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเพื่อความโปร่งใส จึงได้สั่งการให้พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ไปตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม

“หากมีบุคคลเข้าไปเกี่ยวข้องโดยให้ดูผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน อย่าเพิ่งไปพาดพิงหรือกล่าวหาบุคคลใด ทั้งนี้ ไม่ต้องกังวลเพราะทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ขอความกรุณาในการนำเสนอข่าวว่าอย่าไปพาดพิงองค์กร เพราะจะเป็นการทำลายกำลังใจ ของผู้ที่มีความตั้งใจทำงาน ซึ่งอุทยานราชภักดิ์สร้างขึ้นมาด้วยความตั้งใจ ความศรัทธา และความจงรักภักดีของประชานทุกคน ดังนั้นขอให้รอฟังผลการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงก่อน ทางกระทรวงกลาโหมไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว ขออย่าไปขยายความจนทำร้ายความศรัทธาของประชาชนต่ออุทยานราชภักดิ์ให้ลดลง” พล.ต.คงชีพ กล่าว

เมื่อถามคณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงกลาโหมต้องใช้เวลาดำเนินการเท่าไหร่ พล.ต.คงชีพ กล่าวว่าเมื่อตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้วก็ต้องรอการทำงานของคณะกรรมการก่อน โดยจะลงไปดูทุกเรื่องที่เป็นประเด็นทางสังคม ไม่ปล่อยให้เป็นประเด็นทางสังคมทิ้งไว้ค้างคาใจ ซึ่งจะลงไปตรวจสอบทั้งหมด ส่วนประเด็นการหักหัวคิวของโรงหล่อองค์บูรพกษัตริย์นั้น เป็นเรื่องของภาคเอกชน หากมีผู้เสียหายหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการตามกระบวนการสอบสวนและข้อกฎหมายได้

เมื่อถามว่า ถ้ามีข้าราชการหรือคนใกล้ชิดอดีต ผบ.ทบ.เข้าไปเกี่ยวข้องกับการหักหัวคิวจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวไว้ว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพราะทุกคนอยู่ภายใต้ของกฎหมาย กระทรวงกลาโหมพยายามดำเนินการให้โปร่งใสที่สุด ดังนั้นขอให้เชื่อมั่นและมั่นใจในการทำงานของกระทรวงกลาโหม เมื่อถามว่าคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะตรวจสอบไปถึงอดีตผบ.ทบ.ด้วยหรือไม่ พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ต้องรอระยะเวลา เพราะตนไม่สามารถตอบแทนคณะกรรมการได้ เนื่องจากต้องรอให้คณะกรรมาได้ทำงานก่อน ส่วนใครจะเป็นประธานคณะกรรมการในการตรวจสอบจะมีการแถลงให้ทราบอีกครั้ง

“ยืนยันว่าไม่มีการฮั้วซึ่งกันและกัน เพราะการดำเนินการทุกอย่างพยายามทำให้ประเด็นต่างเกิดความคลี่คลาย อีกทั้งกองทัพมีระบบสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจน ไม่มีการปกป้องและช่วยเหลือกันแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันได้ว่าไม่ได้เป็นการดึงเกมของกระทรวงกลาโหม แต่จะไปห้ามความคิดขอใครก็คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นขอความกรุณาสื่อมวลชนรอผลการสอบสวน ไม่ไปขยายความเพราะเกรงว่าจะเป็นการสร้างความเข้าใจที่ผิด จนประชาชนขาดความศรัทธาต่อองค์กรและอุทยานราชภักดิ์ ที่เราร่วมกันจัดตั้งขึ้นด้วยความศรัทธา และความตั้งใจจริง ใครที่ถูกกล่าวหาเขาจะเสียกำลังใจ ถ้ายังไม่มีหมายศาลก็อย่าเพิ่งไปพาดพิง”พล.ต.คงชีพ กล่าว

เมื่อถามว่าในส่วนของโครงการอุทยานราชภักดิ์ที่ยังไม่แล้วเสร็จจะดำเนินการต่อหรือหยุดไว้ก่อน เพื่อรอคณะกรรมกรรตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จก้อนหรือไม่ พล.ต.คงชีพ กล่าวว่าโครงการนี้ต้องเดินต่อ ให้เสร็จสมบูรณ์ เพียงแต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากมีการเปลี่ยนคณะกรรมการชุดใหม่ในการทำงาน

เมื่อถามว่า ทำไมอดีตผบ.ทบ.ที่เกี่ยวข้องกับโครงการมาโดยตลอดไม่ออกมาชี้แจงต่อประชาชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจ พล.ตงคงชีพ กล่าวว่าตนไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของอดีตผบ.ทบ.และต้องให้เกียรติท่านด้วย 

เมื่อถามย้ำว่า สมมุติว่าผลการตรวจสอบออกมาแล้วมีการพาดพิงถึงใครหรือใครเป็นผู้ต้องหาจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า เรื่องนี้มีสองประเด็นคือหากผลสอบอออกมาขั้นต้นออกมาว่ามีความผิดทางวินัย ก็สามารถดำเนินการได้ทันที แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายหรือผิดกฎหมายอาญา ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอาญา โดยไม่มีการละเว้น ดังนั้นของให้ทุกคนสบายใจอย่าได้กังวล ขอให้สื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวตามทิศทางของข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่าหากโยงใยไปถึงบุคคลที่เป็นรัฐมนตรีและมีความเกี่ยวข้องจะต้องแสดงสปริตด้วยกาสรลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ พล.ตงคงชีพ กล่าวว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน แต่นายกรัฐมนตรีได้บอกแล้วว่า ทุกคนอยู่ภายใต้ของกฎหมายฉบับเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะเปิดโอกาสให้องค์กรอิสระหรือองค์กรภายวนอกเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วยหรือไม่ พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่าคณะกรรมการป้องกันปละปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)จะเข้ามาร่วมตรวจสอบนั้น ตตคิดว่าไม่น่ามีปัญหา หากมีการชี้มูลใดๆตนเชื่อว่ากระทรวงกลาโหมมีความโปร่งใสพอที่จะให้ทุกองค์กรของรัฐเข้ามาตรวจสอบ ส่วนจะมีอะไรเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องของตัวบุคคล

ขอบคุณภาพ tnamcot.com