'เจษฎ์'ระบุคสช.ส่งความเห็น10ข้อถึงกรธ. แค่การเสนอทั่วๆไป

"เจษฎ์"ระบุคสช. ส่งความเห็น 10 ข้อ ถึงกรธ. เป็นแค่การเสนอทั่วๆไป ไม่จำเป็นว่า จะต้องร่างรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอเป็นพิเศษ
นายเจษฎ์ โทณะวณิก คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งข้อเสนอแนะ 10 ข้อ ต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อประกอบการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญว่า การส่งข้อเสนอแนะดังกล่าวเป็นการส่งความเห็นทั่วๆไป ซึ่ง คสช. ทำได้อยู่แล้ว เนื่องจากรัฐธรรมนูญชั่วคราว กำหนดให้หน่วยงานต่างๆ สามารถที่จะส่งความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญได้ และการที่ คสช. เสนอความเห็น ไม่ได้หมายความว่า กรธ. จะต้องร่างรัฐธรรมนูญตามข้อเสนอนั้นเป็นพิเศษ ทั้งนี้ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องดี เนื่องจากเราจะได้รู้ว่า คสช. มีข้อเสนอต่อร่างรัฐธรรมนูญอย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่า การที่ คสช. เสนอให้การใช้กำลังทหารโดยสุจริต เพื่อความมั่นคงของรัฐจากภัยที่มาจากในและนอกราชอาณาจักร ไม่ต้องรับโทษทางแพ่ง ทางอาญา และทางปกครอง เป็นการนิรโทษกรรมล่วงหน้าหรือไม่ นายเจษฎ์กล่าวว่าเรื่องนี้ต้องไปพิจารณาในรายละเอียดว่า หมายความเช่นใด เนื่องจากการระบุให้รักษาความมั่นคงมีระบุในรัฐธรรมนูญทุกฉบับอยู่แล้ว แต่ในขั้นที่ว่าใช้กำลังทางทหารทั้งภายในภายนอกโดยสุจริตแล้วจะไม่ต้องรับโทษนั้น ยังไม่เคยมีบัญญัติในรัฐธรรมนูญมาก่อน ส่วนตัวคิดว่าคงจะเขียนในขณะนั้นไม่ได้ เพราะจะต้องมีกรอบกฎหมายในการพิจารณา เนื่องจากจะถือเป็นการทั่วไปว่าทุกการกระทำของทหาร เป็นสิ่งที่สุจริตและถูกต้องเสมอนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะทุกๆคนเป็นคนธรรมดาเหมือนกัน มีผิดถูกได้เสมอ ก็ต้องเผื่อช่องเอาไว้ให้กฎหมาย อื่นๆมาดูแล
ในส่วนข้อเสนอที่ว่าให้ทหารมีสิทธิเสรีภาพการแสดงออกทางการเมือง เป็นการเปิดช่องให้ทหารเลือกฝ่ายทางการเมืองได้หรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวว่า ในประเทศต่างๆ แม้กระทั่งประเทศที่มีเสรีประชาธิปไตย ก็มีข้อกำหนดว่า ข้าราชการไม่ว่าจะเป็นฝ่ายพลเรือร ทหาร หรือตุลาการ จะมีข้อจำกัดในเรื่องสิทธิและเสรีภาพทางการเมือง จะให้มีสิทธิแบบราษฎรเต็มขั้นก็ไม่ได้ โดยส่วนตัวคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการในลักษณะใด รวมถึงข้าราชการทหาร คงมีข้อจำกัดเรื่องขจองสิทธิเสรีภาพทางการเมือในระดับหนึ่ง อีกทั้งที่ผ่านมาก็ไม่ได้ระบุเช่นนี้ เพียงแต่ระบุเรื่องสิทธิเสรีแบบภาพรวมขอองคนไทยทุกคน แต่ในทางปฏิบัติ ก็จะมีกฎหมายของหน่วยงานราชการ คอยจำกัดสิทธิเสรีภาพส่วนนั้นเอง โดยเรื่องก็ต้องพิจารณาตามเป้าหมายที่ว่ารัฐธรรมนูญไทยจะต้องไม่ขัดกับหลักสากล
ส่วนกรณีที่คสช. เสนอให้ กรธ. เตรียมทางออกไว้เผื่อเกิดวิกฤตปัญหาขัดแย้งทางการเมือง หรือป้องกันการสุญญากาศทางการเมือง นายเจษฎ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องมีการพูดคุยกันอย่างกว้างขวางในสังคม การที่จะไปบอว่า คสช. ให้ กรธ. จะเขียนแบบนี้ ก็จะทำให้สังคมขึ้นบัญชีในประเด็นดังกล่าว ว่าอาจจะเป็นกลไกสืบทอดอำนาจ เป็นการใช้อำนาจเหนือรัฐบาลและรัฐสภา หรือเป็นอำนาจพิเศษเพื่อเปิดช่องโดยมีจุดมุ่งหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งจะทำให้มีข้อครหาได้ ทั้งนี้หลายๆประเทศก็มีกลไกป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ แต่เป็นฉันทามติ และเกิดจากการพูดคุยกับทุกภาคส่วนในสังคม ไม่ใช่อยู่ดีๆจะบอกว่า คสช. ให้ร่างรัฐธรรมนูฐแบบนี้ ก็จะทำให้ กรธ. เดือดร้อน และสุดท้ายต้องอย่าลืมว่า การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เมื่อเสร็จแล้วจะต้องส่งตรงไปยังมือประชาชนเพื่อทำประชามติ แม้จะมีการบอกว่า ถ้าร่างรัฐรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ คสช. ก็อยู่ต่อไป ส่วนตัวว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยเหมาะในมุมของการบริหารราชการแผ่นดินสักเท่าไหร่




