กรมศุลฯรวบหนุ่มรัสเซียขนโคเคน6.5กก.

กรมศุลฯ รวบหนุ่มรัสเซียขนโคเคน 6.5 กก. มูลค่าประมาณ 26 ล้านบาท
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายอวยชัย กุลทิพย์มนตรี ผู้อำนวยการสำนักงานกรมศุลกากรพื้นที่ภาค 1 นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ร่วมแถลงผลการจับกุม นายเลเลคอฟ เซอร์ไก (Mr.Lelekov Sergei) อายุ 24 ปี สัญชาติรัสเซีย และเป็นผู้ต้องหาลักลอบนำเข้าโคเคนพร้อมของกลางโคเคนน้ำหนักจำนวน 6,500 กรัม มูลค่าประมาณ 26 ล้านบาท โดยถูกจับกุมตัวได้ที่ด่านศุลกากรเกาะสมุย
นายกุลิศ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ด่านศุลกากรเกาะสมุย สำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 สำนักสืบสวนและปราบปราม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และตำรวจปราบปรามยาเสพติด เกาะสมุย เข้าตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระชนิดล้อลากของผู้โดยสารที่ตกค้างอยู่จำนวน 2 ใบ หลังจากเจ้าหน้าที่สายการบินซิลค์แอร์ได้นพมาให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรตรวจสอบด้วยเครื่องเอ็กซเรย์พบว่าภายในกระเป๋าเดินทางมีวัตถุแปลกปลอมซุกซ่อนอยู่ในผนังกระเป๋าดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่สายการบินแจ้งให้ผู้โดยสารมารับกระเป๋าสัมภาระที่ที่ทำการศุลกากร
นายกุลิศ กล่าวต่อว่า กระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. ทางนายเลเลคอฟ เซอร์ไก ได้ถือหนังสือเดินทางมาแสดงตนเพื่อรับสัมภาระดังกล่าวกับทางเจ้าหน้าที่สายการบิน จากนั้นได้นำตัวนายเลเลคอฟ มาแสดงตัวกับทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรพร้อมทั้งแสดงหนังสือเดินทางเพื่อยืนยันอีกครั้งว่าเป็นเจ้าของกระเป๋าเดินทางทั้ง 2 ใบที่แจ้งหายไว้ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ขณะที่เดินทางมาจากประเทศสิงค์โปร์ด้วยเที่ยวบินที่ MI 772 ซึ่งจากการตรวจสอบกระเป๋าเดินทางชนิดล้อลากสีดำ 1 ใบและสีแดงอีก 1 ใบ พบว่าภายในกระเป๋าสีดำมีเสื้อเชิ้ตอยู่จำนวน 3 ตัว แต่จากการตรวจค้นอย่างละเอียดพบว่าผนังของกระเป๋ามีความหนาผิดปกติและเมื่อดึงออกมาพบห่อพลาสติกใสพันด้วยเทปสีน้ำตาลมีกระดาษคาร์บอนติดอยู่ด้านข้างซึ่งภายในบรรจุผงสีขาวจำนวน 5 หีบห่อ จึงทำการทดสอบด้วยน้ำยาสีฟ้าพบว่าผงดังกล่าวนั้นเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 6,500 กรัม คิดเป็นมูลค่ากว่า 26 ล้านบาท ก่อนจะควบคุมตัวนายเลเลคอฟ มาทำการสอบสวนต่อยังด่านศุลกากรเกาะสมุย
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การอ้างว่า ตนเป็นวิศวกรการบินและถือหนังสือเดินทางในฐานะนักท่องเที่ยว ซึ่งเข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ส่วนรายละเอียดอืานๆนั้นยังไม่ให้การใดๆต่อทางเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีนหรือโคเคนไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายและนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกระทำการดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522” ก่อนส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“จากสถิติในปีงบประมาณ 2558 ทางกรมศุลกากรสามารถจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าโคเคนจำนวนทั้งสิ้นจำนวนรวม 18 คดี น้ำหนักรวม 36 กิโลกรัม มูลค่ารวม 144 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2559 ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนสามารถจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าโคเคนจำนวน 3 คดี น้ำหนัก 14 กิโลกรัม มูลค่า 56 ล้านบาท โดยจากแนวทางสืบสวนพบว่าผู้ลักลอบนั้นจะลักลอบขนยาเสพติดผ่านเข้ามาทางด่านต่างๆในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งได้สั่งการไปแล้วให้มีการตรวจกระเป๋าสัมภาระของนักท่องเที่ยวให้เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านทางด่านต่างๆให้หมดไป”อธิบดีกรมศุลกากร กล่าว







