ยัน'หมอหยอง'เสียชีวิตแล้ว เหตุติดเชื้อในกระแสเลือด

ยัน'หมอหยอง'เสียชีวิตแล้ว เหตุติดเชื้อในกระแสเลือด

รมว.ยุติธรรมเผย"หมอหยอง"เสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่7พ.ย.ที่รพ.ราชทัณฑ์ เหตุติดเชื้อในกระแสเลือด ด้านอธิบดีกรมราชฑัณฑ์แจงภูมิต้านทานอ่อนแอ

พล.อ. ไพบูลย์  คุ้มฉายา  รมว.ยุติธรรม ชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ"หมอหยอง" อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาคดีความผิดมาตรา 112 เสียชีวิตแล้วว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของหมอหยอง โดยตนได้รับรายงานจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 7 พ.ย. ว่า "หมอหยอง"มีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. และได้ทำการรักษาอาการต่อเนื่อง แต่มีอาการรุนแรงขึ้น จึงจำเป็นต้องนำตัวออกจากเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ภายในมทบ. 11 ออกไปรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในคืนวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น.

โดยช่วงเช้าวันที่ 7 พ.ย. อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้รายงานการเสียชีวิต พร้อมรายงานอาการป่วยว่า หมอหยองมีโรคประจำตัวและมีความเครียดจากการถูกดำเนินคดี ระหว่างการคุมขังเคยถูกนำตัวไปรักษาพยาบาลหลายครั้ง รวมถึงให้พยาบาลจากภายนอกเข้าไปรักษาในเรือนจำ เบื้องต้นจากการชันสูตรร่วม 4 ฝ่าย ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง ตำรวจ อัยการ และแพทย์นิติเวช ลงความเห็นว่าเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด  ส่วนรายละเอียดการเสียชีวิตและอาการป่วยก่อนหน้านี้ ได้สั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิต รวมถึงขั้นตอนปฏิบัติทั้งหมด ซึ่งหลังเสียชีวิตจะต้องออกใบมรณบัตรและแจ้งญาติให้มารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา หากญาติติดใจสาเหตุการเสียชิวิตสามารถร้องขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ชันสูตรซ้ำได้ 

"หลังได้รับรายงานการเสียชีวิตของหมอหยองผมได้สอบถามถึงการดูแลผู้ต้องขังว่ามีการตรวจเวรยามอย่างไร และไปพบในอาการอย่างไร ในเรือนจำมีผู้ต้องขังคดีอื่นรวมกันประมาณ 4 คน หากเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราทุกครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงจะต้องเห็นสภาพ  ซึ่งอธิบดีราชทัณฑ์รายงานว่าเมื่อเจ้าหน้าที่เวรยามพบเห็นอาการได้แจ้งผู้คุมให้นำตัวส่งโรงพยาบาลทันที ส่วนสาเหตุที่แท้จริงถึงการติดเชื้อในกระแสเลือดนั้นอยู่ในรายละเอียดของการชันสูตร"รมว.ยุติธรรม กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามถึงสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำของนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ"อาท ชัตเตอร์เทพ" ผู้ต้องหาอีก 1 ราย พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่ได้รับรายงานว่ามีอาการเจ็บป่วยหรือไม่  ส่วนจะมีการย้ายออกมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพหรือไม่นั้น ไม่ได้อยู่ในอำนาจของกรมราชทัณฑ์ กรมราชทัณฑ์มีหน้าที่แค่อำนวยความสะดวก 

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลหรือไม่ เพราะมีผู้ต้องขังคดีสำคัญเสียชีวิตภายใน มทบ.11 ถึง 2 คน พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ในเรือนจำมีนักโทษจำนวนมาก ที่ผ่านผู้ต้องขังคดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยก็ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ส่วนกรณีหมอหยองเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หลายวัน จึงกลายเป็นมีอาการกดดันและมีความเครียด ต้องดูด้วยว่าผู้ต้องขังมีโรคประจำตัวใดมาก่อนเข้าเรือนจำหรือ กรณีนี้เป็นการป่วยส่วนบุคคล

ส่วนกรณีการเข้าไปตรวจสอบการหักหัวคิวค่าก่อสร้างอนุสาวรีย์ 7 กษัตริย์ ภายในอุทยานราชภักดิ์นั้นพล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบการสอบสวนคดี ม.112  ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) จะยังไม่ขอเข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องให้เกียรติเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบให้ดำเนินการไปก่อน หากมีหลักฐานก็ต้องดำเนินการไปตามหน้าที่ 

อธิบดีกรมราชฑัณฑ์แจง"หมอหยอง" ภูมิต้านทานอ่อนแอ

ด้านนายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ออกแถลงการณ์กรณีการเสียชีวิตของหมอหยอง ความยาว 2 หน้ากระดาษว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 7 พ.ย. 58 กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานจากเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี สังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ข.ช.สุริยัน ผู้ต้องขังคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างฝากขังผัดที่ 2 เวรรักษาการณ์ ไปตรวจพบ ข.ช.สุริยันขณะนอนอยู่ในห้องขัง เรียกชื่อไม่ขานตอบ มองจากภายนอกห้องขัง เห็นว่ามีอาการหายใจเฮือก

จึงได้รีบแจ้งให้หน่วยเสนารักษ์ประจำ มทบ.11 มาตรวจสอบพบว่า ชีพจรอ่อน ไม่รู้สึกตัว จึงได้รีบนำตัวส่งทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ​เมื่อไปถึงทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เวลา 22.20 น. ห้องฉุกเฉินแรกรับพบว่า ผู้ต้องขังดังกล่าว ไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนองใดๆ วัดสัญญาณชีพจรไม่ได้ ม่านตาขยาย 4 มม. ไม่ตอบสนองต่อแสงทั้งสองข้าง โรงพยาบาลฯ ได้ดำเนินการช่วยฟื้นคืนชีพเป็นเวลาชั่วโมงเศษ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ แพทย์เวรลงความเห็นว่าเสียชีวิต 

​นายวิทยา ระบุด้วยว่า การเสียชีวิตครั้งนี้เป็นการเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว เจ้าพนักงานมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา คือต้องแจ้งให้พนักงานสอบสวน แพทย์ พนักงานอัยการ และพนักงานฝ่ายปกครอง รวม 4 ฝ่าย มาชันสูตรพลิกศพ ซึ่งในกรณีนี้ได้แจ้งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ซึ่งเป็นท้องที่ที่พบศพ เข้ามาดำเนินการ ​ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งชันสูตรโดยสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้ทำการตรวจ พิสูจน์ศพเรียบร้อย เอกสารลงวันที่ 8 พ.ย. 2558 ปรากฏสาเหตุการเสียชีวิต "สันนิษฐานว่า ระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลวจากติดเชื้อในกระแสโลหิต" เรือนจำได้แจ้งญาติผู้เสียชีวิตให้มาขอรับศพ เพื่อไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป สำหรับการดำเนินการภายหลังการเสียชีวิตเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อรายงานผลมาให้กรมราชทัณฑ์พิจารณา ส่วนการดำเนินการตามกฎหมาย กรณีเสียชีวิต ในสถานที่คุมขังนั้น พนักงานสอบสวน สน. ประชาชื่น จะเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องการไต่สวนการเสียชีวิตต่อไป 

​อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า อาการป่วยของหมอหยอง ว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ย. ต่อเนื่องถึงวันศุกร์ที่ 6 พ.ย. ผู้ต้องขังมีอาการไข้สูง กระสับกระส่าย ไอ พยาบาลเสนารักษ์ประจำเรือนจำ ได้จ่ายยาลดไข้ ยาลดอาการไอ แล้วให้นอนพัก ต่อมาในวันเสาร์ที่ 7 พ.ย. เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่เวรไปตรวจ พบว่าผู้ต้องขังมีอาการเรียกไม่รู้สึกตัว หายใจเฮือกยาว เสนารักษ์จึงแจ้งให้นำส่งทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ทันที ​เมื่อไปถึงทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แพทย์เวรได้พยายามช่วยชีวิตตามหลักเกณฑ์และจรรยาบรรณทางวิชาชีพ ทำกระบวนการฟื้นคืนชีพ (Advanced CPR: Cardio Pulmonary Resuscitation) ใช้เวลาดำเนินกระบวนการ ตั้งแต่แรกพบตัว โดยใส่ท่อช่วยหายใจ ปั้มหัวใจ ให้ยากระตุ้นหัวใจและความดันโลหิต ฯลฯ โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงเศษ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้แจ้งพนักงานสอบสวนท้องที่มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

"เท่าที่สอบถามกับแพทย์ พบว่า มีเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุทำให้ระบบหายใจล้มเหลวแล้วเสียชีวิตอย่างรวดเร็วได้ เช่น เชื้อไวรัสที่ติดต่อทางเดินหายใจ สายพันธุ์รุนแรง ผู้รับเชื้อจะเกิดอาการอย่างเฉียบพลัน ยากแก่การประเมินหรือรักษาไม่ทันการณ์ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยที่ได้รับสารสเตียรอยด์เพื่อกดภูมิต้านทาน หรือผู้เป็นโรคที่ยังไม่ได้ระบุการตรวจวินิจฉัย โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิต้านทานอ่อนแอจากการเป็นโรคประจำตัวบางอย่าง หรือภาวะภูมิต้านทานบกพร่องจากโรคเฉพาะตัวที่ยังไม่ได้รับการค้นพบ หากได้รับเชื้อไวรัสดังกล่าว จะมีอาการรุนแรงและอาจเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่รุนแรง ​ซึ่งในกรณี ข.ช.สุริยันฯ มีความเป็นไปได้ที่ผู้ต้องขังอาจมีภูมิต้านทานอ่อนแอ

โดยตรวจพบจากการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ซึ่งพบว่า มีภาวะไขมันสะสมในตับสูง ประกอบกับผลการตรวจเลือดในขณะการช่วยฟื้นคืนชีพ เมื่อคืนวันที่ 7 พ.ย. พบมีเอนไซม์การทำงานของตับสูง ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดพบว่า มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ มีเพียง 60,000 คิวบิกมิลลิเมตร (ค่าปกติ ตั้งแต่ 140,000-400,000/คิวบิกมิลลิเมตร) สันนิษฐานว่าเมื่อได้รับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในกระแสเลือดเข้าไป จึงอาจทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว"อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว