นายกฯย้ำทำทุกอย่างให้ประเทศเดินหน้าได้

นายกฯย้ำทำทุกอย่างให้ประเทศเดินหน้า พยายามสร้างประชาธิปไตย ลั่นไม่เคยสร้างความเสียหาย รับปัญหาประเทศอื้อ ยันไม่ปิดประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานและแสดงวิสัยทัศน์ในงาน “Innovation for Sustainability : The Power of Collaboration” หนุนทุกภาคส่วนร่วมสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เชื่อมั่นสร้างรายได้ในระยะยาว เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของไทยให้เข้มแข็มและยั่งยืน โดยมี นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจี และคณะผู้บริหารเอสซีจีให้การต้อนรับ
นายกานต์ กล่าวรายงานตอนหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีเอสซีจีได้ทุ่มเทให้กับการวิจัยพัฒนานวัตกรรมในเชิงพาณิชย์ รวมถึงปลุกฝังบุคลากรให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการคิดค้นพัฒนาสินค้าและพัฒนาให้มีมูลค่าเพิ่มเพื่อตอบสนองความต้องการอย่างแท้จริงของลูกค้า และสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจ ซึ่งที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับภาครัฐ สถาบันการศึกษาและภาคเอกชนรวมทั้งสถาบันวิจัยต่างประเทศ ทั้งนี้การจัดงานดังกล่าวเพื่อเป็นเวทีที่สร้างความร่วมมือแบ่งปันความรู้และเกิดเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า มาวันนี้ในฐานะนายกฯ แต่ก็ยังมีภาพลักษณ์การเป็นทหารติดตัวอยู่ วันนี้พยายามจะอารมณ์เย็นแต่เช้า แต่ก็มีมายั่วอารมณ์กันบ้าง แต่การมาพบปะกันวันนี้ก็คิดว่าจะมีสิ่งดีๆ และสร้างสิ่งใหม่ให้กับประเทศ โชคดีของประเทศไทยเดินหน้ามาด้วยเอกชน ซึ่งประเทศมีศักยภาพจำนวนมาก ทั้งเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ บุคลากร ซึ่งวันนี้เราต้องเดินหน้าประเทศให้ได้และใหม่ทั้งหมด ต้องร่วมมือกันขับเคลื่อน ตนในฐานะนายกฯ พยายามทำทุกอย่างสร้างความเข้าใจในทุกเรื่อง ซึ่งวันนี้เราทำงานหลายเรื่องด้วยกันทั้งความมั่นคง การเมือง การปฏิรูปประเทศ การเดินหน้าประเทศไทย และการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อทำให้ประเทศก้าวหน้าอย่างมั่นคงและมีอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาตนพยายามแลกเปลี่ยนแนวความคิดของตัวเองเพื่อให้ทุกคนนำไปคิด ถ้าอะไรถูกกับทำแต่ถ้าไม่ถูกก็ให้บอกมา เราจำเป็นจะต้องมีการวิจัยและพัฒนามากขึ้น เราต้องสร้างวิกฤติให้เป็นโอกาสโดยลดจุดด้อยให้ได้มากที่สุด
"วันนี้ต้องรู้ว่าผมเข้ามาเพื่อทำอะไร ผมเข้ามาสร้างความเสียหายอะไรหรือไม่ ผมเข้ามาทำงานด้วยเจตนาที่สุจริตมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาของประเทศ โดยผมพยายามลดความขัดแย้งให้ได้มากที่สุด และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยกับมิตรประเทศ ส่วนเรื่องประชาธิปไตย เรื่องสิทธิมนุษยชนพยายามทำอย่างเต็มที่ให้ทุกอย่างไปด้วยกันได้ ไม่ใช่เอาเรื่องใดเรื่องหนึ่งมาเป็นหลักของความขัดแย้งหรือเป็นปัญหาของประเทศจนเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อการค้าการลงทุน" นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาที่สำคัญที่สุดของเราในปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ คือรายได้ของประเทศในด้านเศรษฐกิจความเข้มแข็งเรายังไม่เพียงพอ ยังก้าวไม่ถึงจุดสูงสุดในประเทศที่อยู่ในระดับเดียวกัน เรายังเป็นประเทศมหาอำนาจไม่ได้ อย่างน้อยถ้าจะเป็นก็เป็นมหาอำนาจด้านความขัดแย้ง ถ้ายังไม่เลิกก็ยังเป็นอยู่อย่างนี้ เชื่อว่าจิตใจของทุกคนไม่อยากที่จะทะเลาะหรือขัดแย้งกัน แต่มันอยู่ที่การนำของแต่ละคนสำหรับตนไม่ได้นำให้เกิดความขัดแย้งเกลียดชังตนต้องการที่จะเข้ามานำให้ประเทศชาติหลุดพ้นกับดักของตัวเอง
รับปัญหาประเทศอื้อ ยันไม่ปิดประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนที่เป็นปัญหามายาวนานก็ต้องทำต่อไป และทำอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาต่อบ้านเมือง เพราะถ้าเกิดปัญหาก็จะมีผลต่อธุรกิจ ทุกบริษัททั้งไทยและต่างประเทศ ดังนั้นต้องทำให้ธุรกิจของคนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ และธุรกิจของนักลงทุนต่างประเทศ ที่อยู่ในไทยวันนี้ตนต้องเดินหน้าทุกวันซึ่งวันนี้ในอาเซียนไม่มีปัญหาเพราะทุกคนสัญญาไว้ว่าเราจะก้าวเดินไปพร้อมกัน asean strong together อย่างไรก็ตามวันนี้สิ่งที่เราทำไว้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว มันเริ่มหมดอายุ แต่ที่มีไม่หมดอายุอย่างเดียวคือที่บ้าน วันนี้เราต้องเตรียมการทุกอย่างต้องเพิ่มนวัตกรรม เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้ได้ ฉะนั้นเศรษฐกิจของเราจะต้องมีทั้งอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม เรามีประชากรอยู่ในภาคการเกษตรถึง 40 กว่าล้านคนปลูกข้าว 30 ล้านที่เหลือปลูกพืชชนิดอื่น ขายได้บ้างไม่ได้บ้างฉะนั้นวันนี้ต้องปรับใหม่ทั้งหมด ขอสักภาคเอกชนด้วย ในเรื่องของภาคการผลิตจะต้องเชื่อมโยงกับภาคการเกษตรด้วยเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยีหรืออะไรก็แล้วแต่ อยากให้เน้นในเรื่องนี้ด้วยว่าทำอย่างไร กับวัตถุดิบในวันนี้ที่จะทำให้เกิดประโยชน์ เพิ่มมูลค่าในประเทศของเราให้ได้และนำสู่ภาคการผลิต และการตลาด ซึ่งวันนี้ตนก็เห็นหลายอย่างเพิ่มขึ้นมาแล้ว ทั้งเรื่องยางข้าวน่าจะต้องคิดว่าทำอย่างไรไม่ให้ราคาตก อย่างการปลูกข้าวไรซ์เบอรี่แทนข้าวขาววันนี้เห็นผลิตกันออกมาเยอะ สงสัยว่าจะไปขายใคร การผลิตสินค้าด้านการเกษตรอื่นต้องดูเรื่องของดีมานต์ และซัพพราย ด้วย
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้รัฐบาลจะสนับสนุนกิจการที่มีศักยภาพ ขณะเดียวกันก็จะไม่ทิ้งของเดิมเพราะเป็นการสร้างอาชีพสร้างรายได้สร้างแรงงานแต่เราจำเป็นต้องเพิ่มของใหม่ขึ้นมาด้วย ทำอย่างไรมันจะเกิดขึ้นมาได้ ก็ไม่ใช่พูดวันนี้แล้วเกิดได้ในวันพรุ่งนี้ หรือเมื่อคืนนี้ขายของได้ ดังนั้นวันนี้รัฐบาลจำเป็นต้องเข้ามาเปิดทั้งระบบ เพราะเมื่อเข้ามาดูแล้วพบว่ามีปัญหาหลายอย่างด้วยกัน แต่ไม่ต้องตกใจเดี๋ยวตนพูดแล้วจะตื่นตระหนกกันอีก
"ผมเปิดอยู่แล้วประเทศ ใครจะไปบ้าปิด ผมพูดตามอารมณ์ และไม่ชอบทะเลาะเบาะแว้งแต่ถ้าอยากเป็นแบบนั้น ก็ทำกันไปไม่ได้ว่าอะไร วันนี้เราต้องพัฒนา ประเทศให้เกิดความยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ข้อสำคัญคือทำเพื่อประชาชนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งทางบกและทางทะเล เพลงวันนี้โลกแข่งขันกันเยอะฉะนั้นทำอย่างไรเราจะได้ ประโยชน์จากทุกคน ที่เขาแข่งขันต้องคิดแบบนี้ โดยความร่วมมือของท่านทั้งหลาย เขาไม่เคยเป็นศัตรูกับใครในโลกนี้ เว้นแต่เป็นศัตรูตัวเอง ฉะนั้นวันนี้ เราต้องหลุดพ้นให้ได้ โดยร่วมกันระหว่างภาครัฐภาคเอกชนและประชาชน ประชาสังคมต้องร่วมมือกัน ก็จะเดินไปได้"นายกฯ กล่าว







