หน่วยข่าวกรองชี้บึ้มยะลาหลายจุด หวังต่อรองพูดคุยสันติสุข

หน่วยข่าวกรอง 3จังหวัดแดนใต้ ระบุเหตุระเบิดยะลาหลายจุด หวังต่อรองพูดคุยสันติสุข พบยังเคลื่อนไหวต่อเนื่อง พร้อมกำจัดท่อน้ำเลี่ยง
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาค 4ส่วนหน้า (กอ.รมน. ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร พล.ท.เรืองศักดิ์ สุวรรณนาคะ แม่ทัพน้อยที่4 ในฐานะ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. ประชุมสรุปสถานการณ์ในภาพรวมของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยมี รองผู้ว่าจังหวัดยะลา ตัวแทนจากหน่วยเฉพาะกิจ3จังหวัดชายแดนภาคใต้ หน่วยข่าวกรอง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
พล.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวถึงเหตุระเบิดหลายอำเภอในจังหวัดยะลาช่วงค่ำวันที่ 29 ต.ค.และต่อเนื่องเช้าวันที่ 30 ต.ค.ว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงต้องการสร้างความหวาดระแวงให้เกิดขึ้น เป้าหมายเพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐ และดิสเครดิตแนวทางแก้ไขปัญหาของรัฐบาล จากสภาพการก่อเหตุพบว่ามีการกระจายไปเต็มพื้นที่ อำเภอละ 2-3 จุด เป็นลักษณะของการก่อกวน ในพื้นที่รอบนอก ไม่มีทรัพย์สินเสียหายมากมาย มีหม้อแปลงระเบิด ไฟฟ้าดับแต่เจ้าหน้าที่รัฐสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างรวดเร็วซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพรวมเป็นความรับผิดชอบของกอ.รมน.ภาค 4 สน.ที่ต้องปรับแผน ใช้คนและเครื่องมือในการป้องกันเหตุมากขึ้นในพื้นที่ที่เป็นจุดอ่อน แต่จะเห็นว่าเมืองเศรษฐกิจ 7 เมืองใหญ่ผู้ก่อเหตุรุนแรงไม่สามารถทำอันตรายได้เนื่องจากมาตรการในการดูแลความปลอดภัยที่เราวางไว้รัดกุม จึงเลือกไปก่อเหตุรอบนอกแทน แต่เจ้าหน้าที่รัฐ 3 ฝ่ายก็สามารถปรับสภาวะแวดล้อมให้เข้าสู่ปกติได้ภายใน 24 ชั่วโมง
พล.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากสถิติพบว่าสถานการณ์ความรุนแรงในปีที่แล้วลดลง70% เป็นผลจากการทำงานและเดินไปตามยุทธศาสตร์ที่เราวางไว้ และต้องทำต่อไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้อยู่ในช่วงที่รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแหงชาติ (คสช.)มีเอกภาพในการบังคับบัญชา กำลัง 3 ฝ่ายรวมเป็นหนึ่งเดียว แต่ที่ความรุนแรงยังไม่หมดไปเพราะผู้เห็นต่างใช้ความรุนแรงควบคุมมวลชน สร้างภาพความวุ่นวายให้เกิดขึ้น
แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 สน. ระบุว่าจากการวิเคราะห์พบว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุเมื่อคืนนี้มี 2 ประการ คือ ต้องการใช้การก่อเหตุรุนแรงผลักดันขัอเสนอของฝ่ายตนเพื่อต่อรองการพูดคุยสันติสุขที่จะเริ่มในต้นเดือน พ.ย.นี้ อีกทั้ง จังหวัดยะลาไม่ได้เกิดเหตุมานานแล้ว ซึ่งวงรอบการก่อเหตุในพื้นที่จะทำปีละ2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดคือเหตุระเบิดรุนแรงเมื่อเดือน พ.ค.58 ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรอง กล่าวอีกว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุพุ่งเป้าไปยังเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนที่ไม่สนับสนุนการก่อเหตุ พร้อมทั้งตอบโต้การปฏิบัติการเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ในการรุกคืบอิธิพลของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จนสามารถทำลายที่หลบซ่อน พักพิง ตลอดจนตรวจจับเครือข่ายภัยแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ ถือเป็นเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้มีอิทธิพลใน 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มผู้ก่อเหตุความรุนแรงเพื่อการดำรงสถานการณ์ให้เกื้อกูลในการทำธุรกิจผิดกฎหมาย โดยเป็นไปตามเป้าหมายสุดท้ายของกลุ่มก่อเหตุความรุนแรง ที่ต้องการแบกแยกดินแดน จัดตั้งเป็นรัฐอิสลามปัตตานี และจากการข่าวยังพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้เห็นต่าง ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางสันติวิธี วางแผนเตรียมการก่อเหตุสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
เผยเป็นกลุ่ม'อุบาฮีระ-อาร์เคเค'วางบึ้ม
พล.ต.ท.เฉลิมพล อจลบุญ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุความไม่สงบหลายจุดในพื้นที่จ.ยะลา เมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านว่า ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบวัตถุระเบิด หรืออีโอดี ได้ลงพื้นที่ค้นหาและตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุทั้งหมดใน จ.ยะลา ว่ายังมีระเบิดหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่ ขณะนี้ยังสรุปอะไรไม่ได้
เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะคนร้ายจุดฉนวนระเบิดตั้งเวลาไว้ การดำเนินการต่างๆจึงต้องระมัดระวังและใช้เวลา โดยส่วนใหญ่คนร้ายจะระเบิดเสาไฟฟ้า คอสะพาน เผายางรถยนต์ การดำเนินการมีลักษณะก่อกวน เพื่อมีเป้าหมายต้องการจะให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง และเป้าหมายต่อไปคือเผาเมืองยะลา แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ดำเนินการป้องกันเต็มที่ ผลึกกำลัง 3ฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน บูรณาการทำงานร่วมกัน จนไฟฟ้าสามารถกลับมาใช้ได้ตามปกติ โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่ม อุบาฮีระ อาร์เคเค อยู่ในพื้นที่อ.กรงปินัง บันนังสตา บาเจาะ




