วุ่น!จนท.เร่งหาชายต่างชาติแอบเข้าศาลทหาร

วุ่น! จนท. เร่งหาชายต่างชาติ สะพายเป้ แอบเข้าศาลทหาร พิรุธคล้ายเดินสำรวจพื้นที่ ก่อนประสาน "กัมปนาท" ส่งอีโอดีสแกนทุกชั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายอะเด็ม คาราดัก และนายไมไรลี ยูซุฟู ผู้ต้องหาที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ในคดีพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฯ โดยนำตัวมาขออำนาจศาลทหารฝากขัง ผัดแรกตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.- 7 ต.ค. จำนวน 12 วัน ก่อนขอรับตัวไปทำแผนชี้จุดประกอบคำรับสารภาพทั้ง 19 จุด นั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบย้อนหลังพบว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา มีชายต้องสงสัย เป็นชาวต่างชาติ (แขกขาว) สวมเสื้อยืดคอกรมสีดำ กางเกงยีนขายาวสีน้ำเงิน สวมแว่นกันแดด สะพานเป้สีดำ สวมรองเท้าผ้าใบ เดินเข้ามาภายในศาล ตรงไปที่ลิฟต์ ก่อนที่จะกดขึ้นไปที่ชั้น 4 และเดินขึ้นไปบนดาดฟ้า ประมาณ 1 - 2 นาที จากนั้นกลับมาที่ชั้น 4 เดินท่าทางมีพิรุธ สลับถอดและใส่แว่น หลังจาก นั้นเดินวนลงมาที่ชั้น 3 เดินไปทางซ้าย ของอาคารและเดินวนมาทางขวาของอาคาร ก่อนจะเดินกลับมากดลิฟต์ลงมาที่ชั้น 1 แล้วรีบเดินออกนอกบริเวณศาลไปทันที โดยใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 8 -10 นาที
ด้าน พล.ร.ท.กฤษฎา เจริญพานิชย์ รองเจ้ากรมพระธรรมนูญ กล่าวว่า ได้รับรายงานตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อความไม่ประมาท ตนได้ประสานไปยัง พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ (กกล.รส.) ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ อีโอดี เข้าตรวจสอบทุกชั้นโดยละเอียด ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือสิ่งของที่ถูกวางไว้ในศาลแต่อย่างใด เบื้องต้นคาดว่า น่าจะเป็นนักท่องเที่ยว เดินมาเข้าห้องน้ำ ซึ่งในช่วงเย็นวันดังกล่าวทางกรมศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ ได้จัดให้มีพิธีอำลาผู้ที่เกษียณอายุราชการ ทำให้มีคนจำนวนมากมาร่วมงาน ทั้งนี้ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ มักจะมีบุคคลภายนอกมาขอเข้าห้องน้ำบริเวณชั้นล่างอยู่เป็นประจำ
“ภาพชายคนดังกล่าวปรากฎชั้นล่าง บริเวณที่ผู้สื่อข่าวมานั่งรอทำข่าว และเขาก็เดินเข้ามาในช่วงที่มีเจ้าหน้าขนเครื่องดนตรี อาหาร เพื่อมาจัดงานเลี้ยงวันเกษียณอายุราชการ ซึ่งในขณะนั้นเราเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นอย่างไร และไม่มั่นใจว่าเป็นชาวต่างชาติหรือไม่ ระบุไม่ได้ หรืออาจจะเป็นนักท่องเที่ยว เพราะบริเวณศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ เป็นสถานที่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามารับฟังการพิจารณาคดี ตลอดจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาและแวะมาขอใช้ห้องน้ำอยู่เรื่อยๆโดยเฉพาะผู้หญิง ”พล.ร.ท.กฤษฎา กล่าว
เมื่อถามว่า ต่อไปจะเข้มงวดมาตราการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะกับบุคคลภายนอกหรือไม่ พล.ร.ท.กฤษฎา กล่าวว่า ระบบมาตราการรักษาความปลอดภัยของ ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ มีอยู่แล้ว ทั้งเครื่องมือตรวจอาวุธ การแลกบัตรผ่านเข้าออก และสารวัตรทหารก็ดูแลพื้นที่ตลอดเวลา บริเวณรอบนอกและภายในติดกล้องวงจรปิดทุกจุด และระบบรักษาความปลอดภัยของศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ ก็ตรวจเข้มตลอดเวลาอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่า ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ จะกลายเป็นเป้า เพราะเกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดีระเบิด พล.ร.ท.กฤษฎา กล่าวว่า ไม่ห่วง เพราะการรักษาความปลอดภัย เราใช้กำลังจากกระทรวงกลาโหม ส่วนการดูแลผู้ต้องหาเป็นหน้าที่พนักงานสอบสวน เพียงแต่ศาลมีหน้าที่พิจารณาคดีเท่านั้น ซึ่งการรักษาความปลอดภัยสถานที่หรือบุคคล เป็นเรื่องปกติ ที่ทางสารวัตรทหาร หรือ กองกำลังรักษาความปลอดภัยดูแลอยู่แล้ว
พล.ร.ท.กฤษฎา ยังกล่าวต่อว่า สำหรับกรณีศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ รับฝากขังนายอาเดม คาราดัก และนายไมไรลี ยูซุฟู ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดแยกราชประสงค์ 12 วัน ผลัดแรกเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา หากครบกำหนด พนักงานสอบสวนก็ต้องนำตัวผู้ต้องหามาฝากขังอีกเป็นผลัด2 เพราะโทษในคดีนี้สูงสุดสามารถฝากขังได้ 7 ผลัด รวม 84 วัน ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวก็จะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่มาเสริมบ้าง เพราะในกระทรวงกลาโหม ก็มีกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยเต็มสูตรอยู่แล้ว หากมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด กำลังตรงนี้พร้อมปฎิบัติการภายใน5
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเรื่องนี้ กระจายออกไป ทางเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ ได้กระจายกำลังลงในพื้นที่เพื่อติดตามชายต้องสงสัยดังกล่าว เพราะมีลักษณะท่าทางมีพิรุธมาก มีลักษณะท่าทางคล้ายแขกขาว และสะพายเป้ที่แบกดูมีน้ำหนักมาก ทางเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงทั้งในและนอกเครื่องแบบได้กระจายลงพื้นที่ต้องสงสัย ที่คาดว่าบุคคลกลุ่มนี้อาศัยอยู่







