กทม.เดินหน้า 3 โครงการใหญ่ รับมือน้ำท่วม

กทม.เดินหน้า 3 โครงการใหญ่ รับมือน้ำท่วมกรุงเทพฯ ลุยเซ็นต์สัญญาจ้างสิ้นก.ย.นี้
นายอดิศักดิ์ ขันตี รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการป้องกันน้ำท่วมขนาดใหญ่ 3 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนของรัฐบาลในการระบายน้ำแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ว่า ในโครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) และประตูระบายน้ำคลองลาดพร้าวคลองบางบัว คลองถนน คลองสองและคลองบางซื่อจากบริเวณเขื่อนเดิมอุโมงค์ยักษ์พระรามเก้า-รามคำแหง ถึงบริเวณประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้งบประมาณ 2,426 ล้านบาท ขณะนี้ได้ตัวผู้รับจ้างแล้วโดยบริษัทที่ชนะการประมูลคือบริษัท ริเวอร์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด อยู่ระหว่างลงนามจ้างในสัญญา โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้าง 42 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562
นายอดิศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา งบประมาณ 5,900 ล้านบาท ขณะนี้ได้ตัวผู้รับจ้างแล้ว โดยบริษัทที่ชนะการประมูลนี้ คือบริษัทสามประสิทธิ และบริษัท ซิโน-ไทย จำกัด (มหาชน) โดยภายในสิ้นเดือนก.ย.จะมีการลงนามในสัญญาจ้าง
โครงการดังกล่าวประกอบด้วย สถานีสูบน้ำอุโมงค์บางอ้อขนาด 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีจำนวน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางภายในไม่น้อยกว่า 5 เมตรยาวประมาณ 9,400 เมตรอาคารรับน้ำ 7 แห่งก่อสร้างอาคารทิ้งน้ำจำนวน 1 แห่ง เริ่มจากบึงรับน้ำหนองบอนลอดใต้คลองหนองบอน คลองตาช้างถนนอุดมสุข คลองบางอ้อและออกแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณพื้นที่บริษัทไม้อัดไทย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 85 ตารางกิโลเมตร โดยจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่เขตพระโขนง ประเวศ ลาดกระบังสวนหลวง และบางนาโดยจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปีคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562
นายอดิศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะที่โครงการสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมทางเดินริมคลองแสนแสบ บริเวณประตูระบายน้ำหนองจอก ถึงสุดเขตกทม. และคลองนครเนื่องเขต จากคลองแสนแสบถึงบริเวณถนนสุวินทวงศ์ ความยาว 20,000 เมตร ภายใต้งบประมาณ 1,041 ล้านบาท โดยบริษัทที่ชนะการประมูลโครงการนี้ ได้แก่ บริษัท เอส เทค ซีวิล แอนด์ คอนสตรัคชั่น โดยภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้จะมีการลงนามในสัญญาจ้าง
ทั้งนี้ การก่อสร้างโครงการดังกล่าวเป็นแนวคันป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ด้านตะวันออก เพิ่มพื้นที่ในการรองรับปริมาณน้ำในฤดูน้ำหลากหรือในฤดูฝน รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการระบายน้ำจากพื้นที่ตอนเหนือไปสู่ตอนใต้ ตลอดจนแก้ปัญหาการรุกล้ำแนวเขตคลองสาธารณะ โดยจะใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี







