'จาตุรนต์'ชี้ร่างรธน. คสช.ได้ประโยชน์มากสุด

'จาตุรนต์'ชี้ร่างรธน. คสช.ได้ประโยชน์มากสุด

"จาตุรนต์"โพสต์"ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ใครเสียประโยชน์ ใครได้ประโยชน์" ลั่นผู้เสียประโยชน์มากที่สุดคือประชาชน ผู้ได้ประโยชน์มากที่สุดคือคสช.

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุค ระบุว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ใครเสียประโยชน์ ใครได้ประโยชน์ ?ที่กล่าวว่าประชาชน คือผู้เสียประโยชน์มากที่สุดนั้นก็เพราะแม้ประชาชนจะมีสิทธิ์เลือกสว.ก็เป็นสว.ส่วนน้อย เลือกสส.เข้าไปก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องไปคอยออกกฎหมายปฏิรูปตามที่คปป.มอบหมายตั้งใจไปเลือกรัฐบาลก็อาจได้คนนอกเป็นนายกฯ ถ้าได้รัฐบาลก็บริหารประเทศไม่ได้ ตอบสนองความต้องการของประชาชนก็ไม่ได้

เพราะต้องคอยทำตามการมอบหมายของคปป. และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะมีอายุเพียงสั้นๆ เพราะมีกงจักรสังหารเต็มไปหมด ประชาชนจะไปอาศัยการลงประชามติ พรบ.ประชามติก็บอกให้ต้องมีคนมาใช้สิทธ์เกินครึ่ง คนไม่เห็นด้วยนอนอยู่บ้าน ประชามติก็ไม่ผ่านแล้ว

ถ้าเห็นว่ารัฐธรรมนูญไม่ดี เสนอได้ แต่แก้ไม่ได้ทั้งรัฐบาลและสภาที่ประชาชนเลือกไปจะอยู่ใต้อำนาจของคปป.ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับประชาชนเลยและไม่มีใครตรวจสอบได้ด้วย

ส่วนที่กล่าวว่าผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุด คือ คสช.และผู้ใกล้ชิดก็เพราะว่าเมื่อสปช.ผ่านร่างนี้แล้ว คสช.จะตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปขึ้นเพื่อทำการปฏิรูป ส่วนคสช.จะคงอยู่และมีอำนาจเบ็ดเสร็จเหนืออำนาจอธิปไตยทุกฝ่ายต่อไปจนกว่าจะมีครม. หลังการเลือกตั้ง

ตามบทเฉพาะกาลของร่างนี้ สนช.จะเป็นผู้ตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคปป.ซึ่งเมื่อรวมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพแล้วก็จะมีเสียงเกินสองในสาม นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้สูงที่อดีตนายกฯจะเป็นผู้ที่มาจากคสช.หรือผู้ที่ใกล้ชิดกับคสช. คปป.จึงเท่ากับการสืบทอดอำนาจของคสช.โดยตรง

ในส่วนของการแต่งตั้งสว.ตามบทเฉพาะกาล คณะรัฐมนตรีก่อนเลือกตั้งจะมีบทบาทสำคัญในการลากตั้งสว. ซึ่งจะมีอำนาจมากมาย รวมทั้งการถอดถอนบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆทุกฝ่ายได้ทั้งหมด

จะเห็นได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการที่จะทำให้คสช.และผู้ใกล้ชิดมีตำแหน่งและอำนาจมหาศาลจากวันนี้พรุ่งนี้ต่อเนื่องไปจนหลังการเลือกตั้งและต่อไปไม่มีกำหนด ไม่ใช่เพียง 5 ปีอย่างที่มีการพยายามแก้ตัวกันอยู่

ให้ร่างรัฐธรรมนูญแบบนี้ผ่านไม่ได้หรอกครับ

โดยก่อนหน้านี้ นายจาตุรนต์ ได้ทวิตเตอร์และนำมาโพสต์เฟซบุค วันเดียวกัน โดยกล่าวถึงการพิจารณาของสปช.ในวันพรุ่งนี้ 6 กันยายนว่า หากสปช.เห็นชอบผ่านร่างรัฐธรรนูญในวันที่ 6 กย.นี้ ก็เท่ากับผลักประเทศไปสู่วิกฤตความขัดแย้งครั้งใหญ่ ที่ว่าขัดแย้งนั้นไม่ใช่เพราะคนที่เห็นแตกต่างจะทะเลาะกัน ไม่ใช่การรณรงค์หรือแสดงความเห็นจะทำให้เป็นวิกฤต เพราะการลงคะแนนย่อมเป็นทางออก


ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าการลงประชามตินั้นจะต้องเป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรม แต่ฟังจากผู้มีอำนาจแล้วคงไม่เป็นอย่างนั้นและนั่นจะเป็นเหตุให้ขัดแย้งหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติก็จะมีปัญหาทั้งเนื้อหาไม่เป็นที่ยอมรับและการลงประชามติไม่เป็นที่ยอมรับ

หากร่างรัฐธรรมนูญนี้มีผลบังคับใช้ ผู้ที่เสียประโยชน์มากที่สุดคือประชาชนทั้งประเทศ ผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคือคสช.กับผู้ใกล้ชิดหยิบมือเดียว  เมื่อรัฐธรรมนูญนั้นออกฤทธิ์ของความเป็นเผด็จการเต็มที่ ก็จะถึงจุดระเบิดอย่างสมบูรณ์แบบ

การตัดสินใจของสปช.ในวันที่ 6 ก.ย.นี้จึงมีความสำคัญต่อประเทศอย่างมาก หากยังดื้อดึงกันต่อไปทุกฝ่ายก็คงต้องเตรียมรับการสิ่งที่จะเกิดตามมา ทางที่จะป้องกันไม่ให้สังคมไทยก้าวสู่วิกฤตคือ สปช.คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่คว่ำก็ให้การลงประชามติเป็นไปโดยเสรีและยุติธรรม แล้วก็ช่วยกันคว่ำ