รองผบช.น.เผยคดีระเบิดคืบหน้ามากพอควร

รองผบช.น.เผยคดีระเบิดคืบหน้ามากพอควร

"พล.ต.ต.ชาญเทพ"เผยคดีระเบิดคืบหน้ามากพอควร อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบทั้งตัวบุคคลและพยาน ยันแค่ลูกระเบิดMK2สังหารธรรมดาถูกฝังดินไว้นานแล้ว

กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผบช.น.เปิดเผยความคืบหน้าคดีระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหมสี่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่17ส.ค.และเหตุระเบิดที่สะพานสาทรเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมาว่าตอนนี้คดีคืบหน้าไปมากพอสมควรได้รับแจ้งเบาะแสที่มีประโยชน์ต่อคดีเพิ่มเติมแต่อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบทั้งตัวบุคคลและพยาน

ส่วนมีกระแสข่าวว่าคนร้ายในคดีระเบิดบริเวณศาลท้าวมหาพรหมได้มีแท็กซี่สีเขียว-เหลืองรับคนร้ายมาจากย่านยานนาวามาลงที่คลองผดุงก่อนที่จะมาโบกรถตุ๊กตุ๊กที่หัวลำโพงข้อมูลตรงนี้ไม่ยืนยันอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ทั้งนี้ยังไม่ทราบทะเบียนรถคันดังกล่าวและอยู่ระหว่างดำเนินการเรียกแท็กซี่คันดังกล่าวมาให้ปากคำ อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถระบุชื่อว่าคนร้ายเป็นใครและสัญชาติอะไรส่วนการพบระเบิดชนิดเอ็มเคทูที่ซอยสุขุมวิท81 ช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นแค่ลูกระเบิดสังหารธรรมดาถูกฝังดินไว้นานแล้วไม่เกี่ยวข้องกับคดีระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการตรวจสอบเหตุระเบิดเมื่อปี55ที่ซอยสุขุมวิท71ว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่พล.ต.ต.ชาญเทพกล่าวว่ายังไม่ได้สรุปข้อมูลดังกล่าวส่วนที่มีข่าวว่าคนร้ายหลังก่อเหตุวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหมและได้ไปเปลี่ยนเสื้อเป็นสีเทาเข้าไปอยู่ในบริเวณรพ.จุฬาฯและเมื่อคืนที่ผ่านมามีแฮกเกอร์ชาวมุสลิมหัวรุนแรงเข้ามาแฮกข้อมูลเว็บไซต์ของราชการไทย ตำรวจได้เอาข้อมูลทั้งสองเรื่องเข้ามาหารือทางคดีหรือไม่นั้นโดยที่ทั้งสองเรื่องตนเพิ่งทราบเรื่องเมื่อช่วงเช้าก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบข่าวอยู่แต่จะดำเนินการไปสอบถามกับชุดสืบสวนในที่ประชุมวันนี้(24 ส.ค.)ต่อไป

มีรายงานด้วยว่าผลการระดมปราบปรามอาชญากรรมภายใต้ยุทธการปิดเมืองค้นรังโจรผลการเอ็กซ์เรย์คอนโดนมิเนียมหอพักเกสต์เฮ้าส์ฯลฯที่ชาวต่างชาติพักอาศัยระหว่างวันที่21-24ส.ค.รวม4,615หลัง จับกุมผู้ต้องหาได้139รายอาวุธปืนพกสั้น3กระบอกและปืนลูกซองเครื่องกระสุนปืน64นัดยาบ้า454เม็ดยาไอซ์10.75กรัมกัญชา21.38กรัมใบกระท่อม3,223ใบเคตามีน3.02กรัม โอปร้าโซแลม3เม็ด อย่างไรก็ตามจากการระดมตรวจค้นไม่พบเบาะแสของคนร้ายตามหมายจับในคดีระเบิดที่ศาลพระพรหมหลบซ่อนอยู่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้(24.ค.)จะมีการเรียกประชุมชุดสืบสวนเวลา15.00น.ที่ศูนย์สืบสวนบช.น.ส่วนในวันที่25ส.ค.พล.ต.อ.จักรทิพย์ชัยจินดา รองผบ.ตร.จะเป็นประธานการประชุมเวลา15.00น.ที่ บช.น.อีกครั้ง

ญาติเหยื่อระเบิดเข้าให้การตร.ลุมพินี

วันเดียวกัน นายบุญชุบ ตึกกวย อายุ 67 ปี แม่ยายของนายยุทธณรงค์ สิงห์รอ อายุ 38 ปี พนักงานรับส่งเอกสาร หจก.ทูลแอ็ดเวอร์ไทซิ่ง ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดแยกราชประสงค์เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมัคร ปัญญาวงศ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.ลุมพินี เพื่อยื่นเอกสารการรับเยียวยาเหยื่อระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา

น.ส.บุญชุบ เผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้ติดต่อตนในฐานะญาติ ซึ่งเป็นแม่ยายของนายยุทธณรงค์ ให้นำเอกสาร อาทิ ทะเบียนบ้าน ใบสูติบัตร ใบมรณะบัตรของนายยุทธณรงค์ มายื่นเป็นหลักฐานการเยียวยาเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิด โดยวันเกิดเหตุในช่วงเช้า นายยุทธณรงค์ได้มาหาลูกชาย 2 คน วัย13 ปี และ 10 ปี ที่บ้านพักตนแถวซอยทุ่งเศรษฐี แล้วไปทำงาน พอตกเย็นได้นั่งรถไฟฟ้าจากบริษัท ย่านสุขุมวิท 68ไปลงใกล้กับสยาม ก่อนจะเดินต่อไปยังโรงแรมเอราวัณเพื่อส่งเอกสารให้กับลูกค้าของบริษัท แต่ขณะจะเดินทางกลับบริษัทได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น หลังจากนั้น ทางบริษัทก็ไม่สามารถติดต่อกับนายยุทธณรงค์ได้อีก ต่อมา เวลา 07.00 น.วันที่ 18 ส.ค. ตนก็มาทราบข่าวว่านายยุทธณรงค์เสียชีวิตที่สี่แยกราชประสงค์ ศพอยู่สถาบันนิติเวชศาสตร์ รพ.ตำรวจ จึงเดินทางไปดูศพ

น.ส.บุญชุบ เปิดเผยอีกว่า หลังเกิดเหตุ ตนได้รับการเยียวยาเบื้องต้น 2 ครั้ง ครั้งแรกได้รับพระราชทานเงินช่วยเหลือจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผ่านสำนักพระราชวัง จำนวน 90,000 บาท ครั้งที่ 2 จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ถนนแจ้งวัฒนะ จำนวน 100,0000 บาท รวม 190,000 บาท โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างรอการติดต่อจากทางสถาบันนิติเวชศาสตร์ รพ.ตำรวจ ส่วนเรื่องงานศพของนายยุทธณรงค์นั้นได้ประกอบพิธีตามหลักศาสนา ที่วัดบางนานอก เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับ นายยุทธณรงค์ เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี มีเพื่อนมาก เข้ากับคนอื่นได้ง่าย และเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง ส่งเสียเลี้ยงดูลูกชายทั้ง 2 คนเป็นอย่างดี

ด้าน พ.ต.ท.สมัคร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่ได้ทำการสอบปากคำอย่างละเอียดมากนัก วันนี้จึงติดต่อญาติผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำอีกครั้ง เพื่อทำบันทึกคำให้การในฐานะพยานไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำไปประกอบสำนวนคดีต่อไป