เบื้องลึก 'พรรคสีเขียว' คสช.รูดม่าน 'ตระกูลชิน'?

เมื่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เสนอการเพิ่มบทบัญญัติลักษณะ “บุคคลต้องห้าม” สมัคร ส.ส. อันจะพ่วงเป็นบุคคลต้องห้ามสำหรับการเป็น ส.ว. รัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีด้วย

ไม่ทันข้ามวัน อดีต ส.ส.เพื่อไทย ออกมาโวยวายว่าการห้ามผู้ที่เคย “ถูกถอดถอน” ออกจากตำแหน่งลงสมัคร ส.ส.ตลอดชีวิต ว่าเป็นการจงใจกำจัดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกจากเวทีการเมือง

ความจริงกติกาที่ว่า “ห้ามผู้เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งลงสมัคร ส.ส.” ไม่ใช่เรื่องใหม่ เรื่องนี้เคยถูกบัญญัติไว้แล้วในรัฐธรรมนูญ 2550 และรัฐธรรมนูญ 2540

ส่วนร่างรัฐธรรมนูญ 2558 กำหนดเรื่องนี้ไว้ในมาตรา 111 (15) เพียงว่า “เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งหรือถูกตัดสิทธิในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือในการดำรงตำแหน่งอื่น” ไม่ได้ระบุว่าเป็นการถอดถอนโดย “วุฒิสภา” เหมือนในรัฐธรรมนูญสองฉบับก่อนหน้านี้

จึงไม่แปลกที่แกนนำพรรคเพื่อไทย จะระบุว่ามีความจงใจที่จะกำจัด “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ออกจากการเมือง เพราะ “ยิ่งลักษณ์” เพิ่งโดนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาในข้อหาปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบในโครงการรับจำนำข้าว

สรุปว่า ตัวหลักใน “ตระกูลชินวัตร” จะกลับมาเล่นการเมืองไม่ได้แล้ว 2 คน หลังจากที่ “พี่ชาย” กลับมาไม่ได้แล้ว เนื่องจากเคยถูกศาลสั่งยึดทรัพย์เพราะร่ำรวยผิดปกติ 4.6 หมื่นล้านบาท ตั้งแต่เมื่อปี 2553

ขณะที่ด้านหนึ่งตระกูล “ชินวัตร” กำลังจะหายไปจากวงการเมืองอย่างถาวร อีกด้านหนึ่ง “นักการเมือง” อีกกลุ่มหนึ่ง กำลังจะมาเป็น “รัฐมนตรี” ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวปรับคณะรัฐมนตรีค่อนข้างมาแรง หลังจาก “พล.อ.ประยุทธ์” หลุดคำว่า “ม้าขาเป๋” บวกกับคำให้สัมภาษณ์ของ ปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการปรับ ครม.ว่า ถ้าจะเป็นไปได้ น่าจะเป็นลักษณะ “รัฐมนตรีขอลาออกเอง” เพราะเบื่อแล้วหรือมีปัญหาสุขภาพ

จริงๆแล้ว เรื่องที่น่าสนใจในเวลานี้ ไม่ใช่ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” จะเข้าเข้ามาร่วม ครม.ใหม่หรือไม่? หากแต่เป็นกรณีที่ คสช. จะเชิญนักการเมือง “บ้านเลขที่ 111” หรือ “บ้านเลขที่ 109” เข้ามาเป็นรัฐมนตรีมากกว่า

บรรดานักการเมืองที่ถูกสื่อมวลชนขานชื่อ ประกอบด้วบ สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศ หรือ พินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทยจีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ ที่จะได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีเกษตรฯ รวมถึง สรอรรถ กลิ่นประทุม จะเป็นตัวแทนกลุ่มภูมิใจไทย มานั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

มินับกลุ่มก๊วนของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ก็มีข่าวว่า อาจจะส่งตัวแทนเข้ามานั่งในคณะรัฐมนตรีเช่นกัน

นับจากนี้ไป ภาพของการปรองดองเพื่อการปฏิรูปประเทศ จะฉายชัดมากขึ้น โดยสะท้อนผ่าน “คณะรัฐมนตรี” ชุดใหม่ และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งชาติ ที่จะมีการแต่งตั้งในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้

หากมองกันยาวๆ ภาพของการปรับ ครม.ชุดปรองดองนี้ ก็คือภาพสะท้อนของ “พรรคทหาร” ที่มีข่าวร่ำลือกันมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ว่า “บิ๊ก คสช.” จับมือกับ “กลุ่มการเมือง” สร้างพรรคการเมืองใหม่ที่มุ่งหมายสลายขั้วสีเป็นสำคัญ