'มมส-มรภ.มค.' ออกแถลงการณ์ให้กลุ่มต้าน คสช. ยุติเคลื่อนไหว

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ออกแถลงการณ์ให้กลุ่มต้าน คสช. ยุติเคลื่อนไหว
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ 9 กรกฎาคม 2558 ที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมหาสารคาม อาจารย์ นิสิต และนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม กว่า 50 คน
นำโดย ผศ.ดร.วิรัติ ปานศิลา ประธานสภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ผศ.สมาน ศรีสะอาด รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และร่วมกันลงชื่อ กรณีเรียกร้องให้กลุ่มบุคคลยุติความเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. โดยไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้อยู่เบื้องหลัง
โดยทางมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม ได้ประกาศจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. ในทุกกรณี รวมถึงกรณีก่อนหน้าที่มีกลุ่มบุคคลออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งต้องดูสถานการณ์ในปัจจุบันด้วยว่าบ้านเมืองเป็นอย่างไร
อีกทั้ง 2 มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ ได้ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่สนับสนุนบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ออกมาต่อต้านรัฐบาล ซึ่งกลุ่มอาจารย์ หรือนิสิต นักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวก่อนหน้านั้น ทั้งทางสื่อสังคมออนไลน์ หรือในนามกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดก็ตาม ถือเป็นการกระทำส่วนบุคคล ทางมหาวิทยาลัยจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น
รศ.ดร.สุทธิพงศ์ หกสุวรรณ อาจารย์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า นักวิชาการ นักศึกษา ที่ออกมาเคลื่อนไหว ทางประชาธิปไตย ถือว่าเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล แต่ต้องดูด้วยว่าภาวะนี้เหมาะสมหรือไม่ หากใช้อุดมการณ์โดยบริสุทธิ์ใจ คงไม่มีใครว่า นิสิต นักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหว เชื่อว่าออกมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ต้องใช้ปัญญาในการรับฟัง และต้องดูด้วยว่าครูบาอาจารย์มีเบื้องหลังอย่างไร ใครก็รักประเทศชาติ แต่การเคลื่อนไหวต่าง ๆ อาจถูกชักนำโดยครูอาจารย์ ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง ครูอาจารย์บางท่านมีเบื้องหลังผูกพันเกี่ยวกับนักการเมือง ผูกพันกับองค์การต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ไม่ว่ากลุ่มไหนมีความเกี่ยวข้องกันทั้งหมด กิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น แค่มองก็รู้แล้วว่าจัดขึ้นเพื่ออะไร
จากนี้ไป ทั้งสองมหาวิทยาลัยจะทำหน้าที่กำกับดูแลกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัย ไม่นิ่งเฉยเพิกเฉย บ้านเมืองก็จะสงบ ที่ผ่านมากลุ่มอาจารย์ที่มีความเห็นทางการเมืองคล้าย ๆ กัน ออกมาเคลื่อนไหว ไม่อยากให้สื่อออกมาให้ความสำคัญมากนัก พยายามใช้ความเป็นกลางให้ข้อมูลอย่าโน้มน้าว เรื่องเล็กจะได้ไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่







