ม.นเรศวร ยันไม่หนุนเคลื่อนไหว หลังสันติบาลเรียกคุย16อาจารย์

"สันติบาล" ตรวจสอบ16อาจารย์ม.นเรศวร หลังลงชื่อเรียกร้องปล่อย14นศ. ชี้เชิญตัวมาคุยได้เพียง6ราย ด้านผู้บริหารมหา'ลัยยันไม่หนุนเคลื่อนไหว
บ่ายวานนี้ (2 กรกฎาคม 2558) เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล เดินทางเข้าไปตรวจสอบอาจารย์จากมหาวิทยาลัยนเรศวร อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังจากพบว่ามีการลงชื่อแถลงการณ์เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษา 14 คน ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจพบว่ามีอาจารย์ทั้งหมด 16 คน ประกอบด้วยอาจารย์จากคณะนิติศาสตร์ นายยอดพล เทพสิทธา น.ส.ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล คณะสังคมศาสตร์ น.ส.ฐานิดา บุญวรรโณ น.ส.ฐิติชญาน์ ศรแก้ว นายวศินรัฐ นวลศิริ นายวัชรพล พุทธรักษา คณะมนุษย์ศาสตร์ นายสถิตย์ ลีลาถาวรชัย นายฐิติรัตน์ สุวรรณสม และจากหลายคณะที่ไม่ได้ระบุ คือ นายนิธิ เนื่องจำนง น.ส.นภิสา ไวฑูรเกียรติ นายวัชรพล ศุภจักรวัฒนา นายวิเชียร อินทะสี นางศศิธร จันทโรทัย น.ส.สุวนันท์ อินมณี นายอาทิตย์ พงษ์พานิช และ น.ส.อัจฉริยา ชูวงศ์เลิศ
ซึ่งจากการตรวจสอบทั้ง 16 คน มีตัวตน และทำงานเป็นอาจารย์อยู่ภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร บางรายเป็นระดับผู้บริหาร แต่สามารถเชิญตัวมาได้เพียง 6 คน เนื่องจากอาจารย์บางคนติดการสอบ บางรายติดภารกิจ และไปราชการต่างจังหวัด จึงได้เชิญตัวมาสอบถามทำความเข้าใจกรณีมีชื่อปรากฏในแถลงการณ์เรียกร้อง โดยมี ดร.สุชาติ เมืองแก้ว รองอธิการบดีฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานการประชุม ที่ห้องประชุม สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร
แหล่งข่าวที่เข้าไปตรวจสอบ ให้ข้อมูลว่า จากการสอบถาม อาจารย์ส่วนใหญ่เดินทางเข้าไปลงชื่อที่กรุงเทพมหานครโดยไม่ได้นัดหมาย ทุกคนมีความคิดเป็นอิสระ การเดินทางเข้าไปเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 14 คนนั้น ทุกคนต่างต้องการแสดงความห่วงใยนักศึกษาในฐานะอาจารย์ที่เป็นห่วงศิษย์ นักศึกษาควรมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิด ไม่น่าจะเป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นต้องคุมขัง กฏหมายมีไว้จัดการต่อผู้กระทำผิดร้ายแรงมากกว่า จึงต้องการเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษาทั้งหมดออกมา
ด้าน อาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ได้กล่าวถึงเหตุผลที่ลงชื่อ ว่าต้องการแสดงความห่วงใยต่อนักศึกษากลุ่มที่ออกมาแสดงความคิดเห็นมีสิทธิเสรีภาพที่สามารถทำได้ เพราะในอดีตที่ผ่านมามีการแสดงออกทางความคิดที่หนักและรุนแรงมากกว่านี้ ยังไม่มีการถูกกังขังหน่วงเหนี่ยว หรือจับคุมขังเข้าคุกอย่างเช่นที่นักศึกษากลุ่มนี้ จึงไม่เห็นด้วยต่อการกระทำดังกล่าว เพราะหากมีการควบคุมหรือจำกัดสิทธิเสรีภาพ หวั่นเกรงว่าเรื่องเล็กอาจลุกลามเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อยากให้นำระบบทหารมาใช้ ควรเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย อย่างเท่าเทียม อย่าเลือกฟังเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์เท่านั้น ควรร่วมกันหาทางออกจากทุกๆกลุ่มอย่างเท่าเทียม เพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน ดร.สุชาติ เมืองแก้ว รองอธิการบดีฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้กล่าวยืนยันว่า ทางมหาวิทยาลัยไม่มีนโยบายสนับสนุนให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ก็ไม่ได้ก้าวล่วงล้ำเข้าไปจำกัดในสิทธิส่วนบุคคล เพราะทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดได้







