นายกฯสั่งช่วยเหลือ5นศ.ไทยถูกจับในปากีฯ

ความคืบหน้าของนักศึกษาไทย 5 คน ถูกจับที่สนามบินที่ปากีสถาน ขณะที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่พบปืนในกระเป๋าเดินทางของนักศึกษาคนหนึ่ง และแน่นอนต้องมีคำถามว่า นักศึกษาเหล่านี้เป็นใคร แต่ว่าล่าสุดฝ่ายความมั่นคงของไทยยืนยันว่า ไม่มีหลักฐานที่เชื่อมโยงนักศึกษาเหล่านี้ ไปถึงกลุ่มก่อความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ หรือกลุ่มก่อการร้ายไอซิส

      นักศึกษาไทย 5 คนที่ไปศึกษาต่อที่ประเทศปากีสถาน ถูกควบคุมตัวเมื่อค่ำวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากถูกตรวจพบปืน 9 มม.พร้อมกระสุนในกระเป๋าเดินทางก่อนขึ้นเครื่องบิน เที่ยวบินที่ทีจี 346 ที่กำลังจะออกจากเมืองลาฮอร์ สู่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่พบปืนขณะที่ตรวจกระเป๋าด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ รายงานข่าวจากสถานีเมืองลาฮอร์อ้างว่า นักศึกษาบางคนอาจไปฝึกอาวุธร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส แต่นักศึกษาไทยให้การกับเจ้าหน้าที่ที่ลาฮอร์ว่า เพื่อนจากเมืองการาจีเอาแจ็คเก็ตมาฝากใส่ในกระเป๋า และจะมีคนมาเลเซียมารับที่สนามบินกรุงเทพฯ และยืนยันว่าไม่รู้ว่ามีปืนอยู่ข้างใน

      นักศึกษาที่ถูกจับทั้ง 5 คน มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดสงขลา ปัตตานี ฉะเชิงเทรา กระบี่ และตรัง แม่ของ 1 ใน นักศึกษาที่มาจากกระบี่ยืนยันว่า ลูกชายไม่มีนิสัยเกเร และไม่เชื่อว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มก่อความไม่สงบ วันเกิดเหตุบุตรชายได้ส่งไลน์บอกว่า กำลังจะขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ เพื่อทำเรื่องผ่อนผันทหาร เพราะต้องศึกษาต่ออีก 4 ปีก่อนจะขาดการติดต่อ จนเมื่อวานนี้ครูสอนศาสนาในพื้นที่ได้แจ้งว่า ลูกชายถูกจับที่สนามบินที่ลาฮอร์ ขณะที่พี่สาวของหนึ่งในนักศึกษาที่จังหวัดปัตตานีให้การกับเจ้าหน้าที่สันติบาลว่า น้องชายได้โทรศัพท์มาหาก่อนขึ้นเครื่อง และบอกให้ไปรับที่สนามบิน และมีกล่องหนังแกะที่อาจารย์สอนศาสนาที่ปากีสถานฝากมาให้ครูสอนศาสนาที่เมืองไทย

      รองโฆษกสำนักนายกฯ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด บอกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของฝ่ายความมั่นคง ไม่พบความเชื่อมโยงหรือพฤติกรรมที่แสดงถึงความเกี่ยวพันกับกลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตรงกับข้อมูลของ กอ.รมน.ภาคใต้