'กองทัพบก' ลั่นไม่ปกป้องทหารยศ 'พันตรี' เรียกค่าไถ่โรฮิงญา
กองทัพบก ลั่นไม่ปกป้องทหารยศ "พันตรี" กับพวก เอี่ยว เรียกค่าไถ่ "โรฮิงญา" เตรียมให้ต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการสอบ เพื่อความเป็นธรรม
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกและโฆษกคณะรักษาความสงบเรียบร้อย (คสช.) กล่าวถึง กรณีที่มีนายทหารยศพันตรี กับพวก เรียกรับผลประโยชน์จากนายหน้าผู้ควบคุมกลุ่มต่างด้าวโรฮิงญา ว่า จากการประสานข้อมูลเบื้องต้นกับทางหน่วยต้นสังกัด คือ กองร้อยสารวัตรทหาร มณฑลทหารบกที่ 42 ทราบว่า เมื่อ 29 มี.ค.58 ที่ผ่านมา ได้มีกำลังพลของหน่วยประกอบด้วย ร.ท.สาธิต สุวรรณราช สังกัด ร้อย สห. มทบ.42 จ.ส.อ.ชบ คงชูช่วย ส.อ.อนุรักษ์ แก้วชะโน ส.อ.กิตติพงษ์ ไชยพรหม พลอาสาสมัคร รวิ ชายแก้ว ได้รับแจ้งความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับบุคคลต่างด้าว จึงขึ้นไปทำการลาดตระเวนหาข่าว บริเวณพื้นที่แนวชายแดนไทยมาเลเซีย ใกล้ๆ บ้านตะโล๊ะ หมู่ที่ 8 ตำบลประดังเบซาร์ และพบกลุ่มต่างด้าวชาวโรฮิงญา ซึ่งมีคนไทยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมอยู่ จึงได้มีการเชิญตัวคนไทยที่ทำหน้าที่ควบคุมบุคคลต่างด้าวจำนวน 2 คน คือ นายบุญเย็น เนสะแหละ และ นายผิน ร่วมบัว มาทำการซักถามเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทางด้านการข่าวในบริเวณพื้นที่ตั้งของหน่วย โดยใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง จากนั้นได้มีการปล่อยตัวไป โดยทางหน่วยได้ทำการจดบันทึกรายละเอียดและรายงานการปฏิบัติไปด้วยแล้วตามสายการบังคับบัญชา
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า หลังจากนั้นเพียง 1 วัน ทางหน่วยถึงได้ทราบว่ามีชาวบ้าน 2 ราย ได้มาแจ้งความไว้กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปาดังเบซาร์ว่า ถูกกลุ่ม ร.ท.สาธิตและพวกทำการกักขังหน่วงเหนี่ยวเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ ทาง ตร.จึงได้มีการลงบันทึกแจ้งความ และเชิญ ร.ท.สาธิต สุวรรณราช ซึ่งทำหน้าที่ หัวหน้าชุด มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อประกอบเป็นสำนวน ส่งต่อให้ทาง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)เป็นผู้ลงความเห็นเพื่อที่จะไปชี้มูลต่อไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการตั้งข้อกล่าวหาใดๆ
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้พบว่ายังมีข้อมูลที่ได้รับไม่ตรงกัน เพราะส่วนใหญ่ข้อมูลที่ได้มาจากกลุ่มบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ จึงอาจต้องมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เชื่อว่าทางหน่วยต้นสังกัดต้องดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
“ขอให้มั่นใจหากพบหรือมีข้อมูลว่ามีกำลังพลคนใดปฏิบัติหน้าที่ด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ ในทุกๆหน่วยของกองทัพบกจะมีมาตรการดำเนินการในทางวินัยขั้นรุนแรงทันที ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัชมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหม และ ผบ.ทบ.ที่จะไม่มีการปกป้องกำลังพลที่มีความประพฤติไม่เหมาะสม หรือกำลังพลที่กระทำความผิด ” พ.อ.วินธัย กล่าว







