'กองกำลังบูรพา' จับกุม93แรงงานเขมร ซุกห้องเช่า

พล.ต.ศรีศักดิ์ พูนประสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ได้สั่งการให้ พ.อ.กฤษณ์ สุนสะธรรม ผบ.ฉก.กรม.ทพ.12กกล.บูรพา (ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่12กองกำลังบูรพา) ร่วมกับ พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว และ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว สนธิกำลังกองร้อยทหารพรานที่1201ฯ,ตร.สภ.คลองลึก และ ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สระแก้ว ออกระดมกำลังกวาดล้างจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อนชาวเขมรเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้แรงงานชาวเขมรที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์และค้าแรงงานทาส ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและ คสช.โดยเฉพาะในชุมชน200ห้อง ซึ่งอยู่ตรงข้ามตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้สืบทราบว่ามีแรงงานเขมรจำนวนมากลักลอบเข้ามาซุกซ่อนตัวเพื่อรอรถมารับไปส่งขายแรงงานใน กทม.และจังหวัดใหญ่ๆทางภาคตะวันออก

โดย จนท.ได้สนธิกำลังร่วมกันฯเข้าทำการปิดล้อมและตรวจค้น ชุมชน200ห้อง ซึ่งเป็นห้องแถวให้เช่าไม่มีเลขที่ พื้นที่บ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ด้านหลังตลาดเดชไทย ซึ่งอยู่ตรงข้ามตลาดโรงเกลือ ชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบมีแรงงานเขมรจำนวนมากแอบซุกซ่อนอยู่ภายในห้องแถวในชุมชน200ห้อง กันอย่างแออัด ตรวจสอบไม่พบมีเอกสารการเดินทางหรือบัตรแรงงานต่างด้าว จึงควบคุมแรงงานชาวเขมรที่ไม่มีเอกสารการเดินทางหรือบัตรแรงงานต่างด้าวได้ทั้งหมด รวม93คน เป็นชาย52คน หญิง41คน จึงควบคุมตัวแรงงานชาวเขมรทั้งหมด93คน ส่งให้ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายคนเข้าเมือง และสอบสวนเพื่อขยายผลถึงเจ้าของห้องพักที่ให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าวและคนไทยที่ร่วมอยู่ในขบวนการนี้ด้วย

จากการสอบสวนของ จนท.ฯแรงงานชาวเขมรรับว่าลักลอบเดินทางมาจาก จ.กัมปงจาม และ จ.ไปรเวง ประเทศกัมพูชา เพื่อจะไปทำงานที่ กทม.และ จ.ชลบุรี โดยได้เสียเงินค่านายหน้าให้กับขบวนการค้าแรงงานเถื่อนซึ่งมีทั้งชาวเขมรและชาวไทยร่วมมือกัน มาคนละ2200บาท และได้ถูกขบวนการค้าแรงงานเถื่อนปล่อยให้หลบซ่อนตัวอยู่ในห้องเช่าดังกล่าวมานานกว่า3วันแล้ว อ้างว่ายังไม่สามารถหารถมารับไปส่งขายแรงงานได้เนื่องจากช่วงนี้ จนท.ไทยเข้มงวดมาก จนกระทั่ง จนท.บุกเข้ามาจับกุมได้

ต่อมา จนท.ชุดเดียวกันได้รับแจ้งจากชุดปฏิบัติการข่าว(ชปข.) กองร้อยทหารพรานที่1201ฯว่าได้ตรวจพบรถยนต์กระบะ4ประตู ต้องสงสัย ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีดำ ทะเบียน กค-7604กทม.คาดว่าลักลอบขนแรงงานเถื่อนชาวเขมรมาจากตะเข็บชายแดนบ้านวังมน หมู่ที่3ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มุ่งหน้าจะเข้าตลาดโรงเกลือ จนท.จึงนำกำลังไล่ติดตามและสามารถสกัดไว้ได้บนถนนสายท่าข้าม-โคกสะแบง ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 

จากการตรวจค้นพบ น.ส.บุญทริกา คล่องวิเชียร อายุ41ปี อยู่บ้านเลขที่89ม.3ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เป็นผู้ขับขี่ ภายในรถมีแรงงานเถื่อนชาวกัมพูชานั่งอัดแน่นกันมาภายในเก๋งรถจำนวน10คน เป็นชาย5คน หญิง5คน ตรวจสอบไม่มีเอกสารการเดินทางแต่อย่างใด น.ส.บุญทริกาฯอ้างรับแรงงานเถื่อนชาวเขมรจากตะเข็บชายแดนบ้านวังมนฯเพื่อไปส่งขึ้นรถตู้โดยสารที่ตลาดโรงเกลือ เก็บค่ารถชาวเขมรคนละ200บาท จนท.จึงควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่งให้ พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดีพร้อมทั้งตักเตือน น.ส.บุญทริกาฯว่าการรับจ้างขนแรงงานเถื่อนชาวเขมรคนละ200บาท10คน ได้2000บาท เป็นเพียงเงินผิดกฎหมายเล็กๆน้อยๆ แต่ความเสียหายด้านความมั่นคงของไทยนั้นจะเสียหายใหญ่หลวงมากหากแรงงานเขมรพวกนี้ตกไปเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์จะทำให้ประเทศไทยเสียชื่อเสียงมากมายทีเดียว