เลือกแล้ว! องค์คณะศาลฎีกา9คน คดีบุญทรง ทุจริตข้าวจีทูจี

"วีระพล" รองปธ.ศาลฎีกา เจ้าของสำนวนคดีจำนำข้าว ร่วม1ใน 9ผู้พิพากษาคดี “บุญทรง พวก 21 ราย” ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ-ฮั้วประมูล ระบายข้าวจีทูจี
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เลือก“ 2 รองปธ.ศาลฎีกา - 6 ปธ.แผนกคดีในศาลฎีกา - 1 พ.หน.ฎีกา” นั่งองค์คณะ ส่วนคดีลุ้นศาลฎีกานักการเมืองนัดฟังคำสั่งรับฟ้อง-ไม่รับฟัอง สิบโมงเช้า 20 เม.ย.นี้ ด้าน “ปธ.แผนกคดีอาญานักการเมือง” ชี้ ที่ประชุมใหญ่เลือกเอกฉันท์ ส่วนคดีไม่มีปัญหาตัดสินตามพยานหลักฐาน
ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลฎีกา ถ.แจ้งวัฒนะ วันที่ 25 มี.ค.58 เวลา 09.30 น.นี้ นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาทั้งหมด 173 คน เพื่อลงคะแนนลับ เลือกผู้พิพากษา 9 คนเป็นองค์คณะ พิจารณาคดี หมายเลขดำ อม.25/2558 ที่นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ จำเลยที่ 1 และ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 2 กับพวกรวม 21 ราย เป็นจำเลย ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในความผิดฐานร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งโดยทุจริตและฮั้วประมูลโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่เกิดเหตุช่วงระหว่าง 8 ก.ย.54 - 22 ก.พ.56 ซึ่งคดีดังกล่าวอัยการสูงสุด ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 17 มี.ค.58 ที่ผ่านมา
โดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ได้คัดเลือกด้วยวิธีการลงคะแนนลับ จากจำนวนผู้พิพากษาที่วันนี้เข้าประชุมทั้งสิ้น 130 คน ผลคัดเลือกที่ได้เรียงตามลำดับคะแนน คือ
1.นายธนฤกษ์ นิติเศรณี ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา
2.นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา
3.นายวิรุฬห์ แสงเทียน ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา
4.นางทัศนีย์ จั่นสัญชัย ธรรมเกณฑ์ืประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา
5.นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา
6.นางพฤษภา พนมยันตร์ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกา
7.นายวีระพล ตั้งสุวรรณ รองประธานศาลฎีกา
8.นางนวลน้อย ผลทวี ประธานแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศในศาลฎีกา และ
9.นายอภิรัตน์ ลัดพลี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา
ทั้งนี้หลังจาก ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ได้เลือกผู้พิพากษาองค์คณะแล้ว ก็จะเสนอนายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา เพื่อลงนาม ก่อนจะติดประกาศรายชื่อองค์คณะทั้ง 9 คนไว้ที่หน้าห้องพิจารณาคดี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อาคารศาลฎีกา ถ.แจ้งวัฒนะ ภายใน 5 วัน นับจากที่วันเลือกองค์คณะตามขั้นตอน เพื่อให้คู่ความได้รับทราบและตรวจสอบ หากจะมีการคัดค้านผู้พิพากษาองค์คณะคนหนึ่งคนใด ซึ่งสามารถยื่นคัดค้านได้ตั้งแต่วันที่มีการติดประกาศรายชื่อเป็นต้นไป จนก่อนจะเริ่มมีการไต่สวนพยาน
สำหรับองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน หลังจากนี้ ก็จะนัดประชุมกันภายในเพื่อลงคะแนนลับเลือกผู้พิพากษา 1 คน เป็นเจ้าของสำนวนต่อไป และร่วมกันพิจารณาคำฟ้องว่าครบองค์ประกอบและอยู่ในเขตอำนาจศาลฎีกาฯที่จะประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาพิพากษาได้หรือไม่ โดยศาลฎีกาฯ นัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องคดีนี้หรือไม่ ในวันที่ 20 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้พิพากษาองค์คณะฯ ทั้ง 9 คนคดีระบายข้าว ที่ได้รับเลือกวันนี้ พบว่า นายธนฤกษ์ ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ,นายไสลเกษ ประธานแผนกคดีภาษีอากร , นายวิรุฬห์ ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจ , นายชีพ และนายวีระพล รองประธานศาลฎีกา ก่อนหน้านี้ก็ได้รับเลือกให้เป็นองค์คณะฯในคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ละเว้นปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ส่วนนายวีระพล เองก็เป็นเจ้าของสำนวนพิจารณาคดีจำนำข้าว ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยคดีหมายเลขดำ อม.22/2558 จากกรณีที่ละเลยไม่ยับยั้งโครงการจำนำข้าว จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐบาลเป็นเงินกว่า 5 แสนล้านบาท อีกด้วย
ขณะที่นายธนฤกษ์ นิติเศรณี ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา กล่าวว่า การเลือกองค์คณะผู้พิพากษาจำนวน 9 คนของแต่ละคดีนั้น ขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาจะเป็นผู้เลือกด้วยวิธีการลงคะแนนลับ แม้ว่าองค์คณะผู้พิพากษาจะมีรายชื่อซ้ำกันใน 2 คดีดังกล่าว แต่ก็ไม่มีผลต่อการพิจารณาคดีแต่อย่างใด โดยองค์คณะจะตัดสินไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน รวมทั้งระเบียบข้อกำหนดของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ไม่ได้มีข้อห้ามแต่อย่างใดส่วนจะนัดประชุมกันภายในเพื่อเลือกผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนเมื่อใดนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดวันขึ้นอยู่กับองค์คณะจะพร้อมพิจารณาเมื่อใด




