'ประยุทธ์'แย๊บถาม 'เอาไหม..เลือกตั้งปลายปีนี้'

'ประยุทธ์'แย๊บถาม 'เอาไหม..เลือกตั้งปลายปีนี้'

นายกฯประยุทธ์ แย๊บถาม “เอาไหม..เลือกตั้งปลายปีนี้” วอนอย่าทำวิกฤติให้เป็นวิกฤติ ขอคนหนีกลับมาสู้คดี

ลั่นพร้อมให้อภัย ยันไม่มีซ้อมถามผู้ต้องหา ถามไปโดนยุงกัดมาหรือเปล่า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวตอนหนึ่งในการเป็นประธานเปิดโครงการจัดงานเนื่องในสัปดาห์อนุรักษ์ทรัพยากรน้ำแห่งชาติและวันน้ำโลก ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งงานดังกล่าวจัดโดย คสช. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ว่า รัฐบาลให้แนวนโยบายแล้วว่าการทำอุตสาหกรรมต้องเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวที่ไม่ตองใช้น้ำเยอะ ไม่ต้องเบียดเบียนธรรมชาต อย่างไรก็ตามการวางยุทธศาสตร์น้ำแตกต่างจากอดีต ซึ่งตนให้นโยบายไปแล้วว่าอะไรเริ่มได้ก็เริ่มอะไรเริ่มไม่ได้ก็ส่งต่อรัฐบาลหน้า เพราะน้ำเป็นทรัพยากรที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชทานแนวพระราชดำริไว้ ซึ่งรัฐบาลก็นำขับเคลื่อนด้วยหลักเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา ที่ต้องสร้างความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ที่ต้องวางแผนไปถึง 20 ปีข้างหน้า เพราะวันหน้าถ้าน้ำไม่มีใช้ก็จะไม่มีน้ำอาบ เอาน้ำที่ไหนมาหุงข้าว และตนฟังข้อมูลยูเอ็นระบุว่า ในปี พ.ศ.2573 โลกเปลี่ยนแปลง ปริมาณน้ำจะขาดหาย 40% แต่ประชากรกลับเพิ่มขึ้น 50% ทำให้มีความต้องการน้ำเพิ่มขึ้น50% แค่วันนี้น้ำยังไม่พอ แล้ววันหน้าจะหาจากที่ไหน ดังนั้นวันนี้ต้องเริ่มทำ

นายกฯ กล่าวอีกว่า เป้าหมายของรัฐบาลคือประชาชนต้องมีน้ำกิน ประปาหมู่บ้านต้องเข้าถึง ต้องหาแหล่งน้ำต้นทุน พัฒนาด้านการเกษตรที่มีการจัดระเบียบพื้นที่เพาะปลูก ต้องแก้ปัญหาเรื่องทางน้ำไหลที่ต้องระมัดระวังการก่อสร้างกีดขวางทางน้ำไหล รวมถึงจัดหาน้ำต้นเพื่ออุตสาหกรรมเพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับอุทกภัยเมื่อปี 2553 ซึ่งตนไม่เคยเห็นและน่าจะเกิดขึ้นอีกแล้ว ซึ่งน้ำท่วมครั้งนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ดังนั้นต้องนำมาทบทวนทั้งหมดว่ามีคอขวดตรงไหนในลุ่มเจ้าพระยา มีการสร้างถนนกีดขวางทางน้ำหรือไม่ ส่วนเรื่องคูคลองก็มีจำนวนลดลงอย่างมาก ทำอย่างไรจะใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ และต้องมีการขุดลอกคูคลองทั้งหมดซึ่งทหารช่างสามารถเข้าไปดำเนินการได้


ส่วนการแก้ปัญหาการสร้างบ้านรุกล้ำคลองที่คลองลาดพร้าวนั้น นายกฯ กล่าวว่า เราต้องจัดระเบียบเพราะไม่เช่านั้นเราวางแผนทั้งหมดได้ ผังเมืองก็ต้องทำใหม่ แล้วจะขยายเมืองอย่างไร เรื่องนี้ทำมากี่ปีแล้วก็ไม่เคยเสร็จ รอแล้วก็รอ จนตนรอไม่ได้ รอไม่ไหวจนน้ำท่าเละเทะไปหมด ฉะนั้นวันนี้เราต้องทำทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางทุกมิติ และนี่คือระยะเริ่มต้นไม่เช่นนั้นจะตนมาให้เหนื่อยและสร้างความรำคาญให้ท่านทำไม และนอกจากนี้ยืนยันว่าจะไม่มีการกู้้เงินระยะยาวที่ต้องใช้หนี้ถึงชาติหน้ามาแก้ปัญหาน้ำ เราจะกู้เงินปีต่อปี ทำเป็นตอนๆ ดังนั้นยืนยันกับ รัฐบาลใหม่ว่าเราจะไม่สร้างภาระให้ท่าน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ส่วนใหญ่ปัญหาเรื่องน้ำอยู่กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ซึ่งยังไม่มีความพร้อมในการบริหารจัดการ ดังนั้นจึงอยากบอกยูเอ็นว่าทำไมเราถึงมีความ จำเป็นที่ต้องมีรัฐบาลที่ดีที่มีธรรมาภิบาลมีความเป็นธรรมไม่ทุจริตเข้ามาเพื่อเดินไปสู่ประชาธิปไตย ซึ่งตนทำคนเดียวไม่ได้ แต่ถ้าเรายังทำประชาธิปไตยแบบเดิมๆสิ่งเดิมๆก็กลับมาอีก ดังนั้นต้องทำในช่วงนี้ที่เป็นวิกฤติเวลานี้ ไม่ชอบตนหรืออะไรก็แล้วแต่ก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่เอาวิกฤติไปสร้างวิกฤติอีก

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า “นี่ผมพูดเยอะจนงงไปหมดแล้ว ทำไมถึงมีแต่ปัญหา” วันนี้ีคนต่อต้านเป็นธรรมดา แต่ตนจะรับผิดชอบเอง วันนี้ต้องทำทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง นี่คือระยะเริ่มต้นของเรา ไม่เช่นนั้นจะมาให้เหนื่อยให้ท่านรำคาญกันทำไม อย่างไรก็ตาม ขอให้ย้อนไปดูก่อนวันที่ 22พ.ค.2557 ว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นแหละประชาธิปไตยของไทย ที่มีเลือกตั้งแล้วเอาปืนมายิงกัน เอาระเบิดมาใส่กันแต่ประเทศท่านไม่มี ถ้ามีเลือกตั้งแล้วเกิดขึ้นอีกตนจะส่งไปอยู่ประเทศเหล่านี้ แต่มันต้องแก้ไขให้ได้ เป็นคนไทยจะหนีไปไหนไม่คิดถึงลูกเมียบ้างรึไงถึงไม่กลับมา ตนพร้อมจะให้อภัย มันเป็นคดีอาญาไม่ผิดก็ไปว่ากันจะหนีไปไหนก็ไม่เกิดประโยชน์ ส่วนที่มีข่าวว่ามีการซ้อมผู้ต้องหายืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจน ใครจะไปซ้อมไม่น่ามี ยุงกัดในคุกหรือเปล่า ไม่รู้จะซ้อมไปทำไม

ผูู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวโดยเป็นการถามที่อยู่ในห้องว่า “ ต้องตีความว่าประชาธิปไตยของไทยก่อนวันที่ 22พ.ค. 57 ว่าเป็นอย่างไร ถามว่าอยากกลับออกไปเจอแบบนั้นอีกหรือไม่ จะให้มีการเลือกตั้งปลายปีนี้ ใครดีใจบ้างสักคนไหม” ปรากฏว่าทุกคนในห้องเงียบไม่มีใครส่งเสียง จนพลเอกประยุทธ์ถามอีกว่า “เอ้า ไม่ดีใจกันหรือ หรือไม่กล้า” ทำให้ทุกคนในห้องหัวเราะ แล้วพลเอกประยุทธ์กล่าวอีกว่า ก็แล้วแต่ท่านตนก็ส่งตามโร๊ดแม็พของท่าน

นายกฯ กล่าวอีกว่า เราต้องลดการคอรัปชั่น ซึ่งยืนยันว่าเราไม่อยากใช้อำนาจในทางที่ผิด วันนี้ยังไม่ได้ใช้ทำอะไรใครเลย ที่จับมาก็เป็นคดีอาญาทั้งสิ้น และใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกในการเรียกมากสอบสวน ไม่มีอะไรก็ปล่อยใน 7 วัน ก็ให้ความเป็นธรรมให้เขาสู้ไป ให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง ยืนยันไม่ขัดแย้งกับท่าน

“ขอบคุณที่ทนฟังผม ที่พูดอาจซ้ำเพราะยังไม่สำเร็จยังไม่เกิดขึ้น100% ทั้งหมด การแก้ปัญหายังเป็นปัญหาอยู่ โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ไม่เข้มแข็ง 5 ปี 10ปียังไม่ได้ทำ แล้วผมเป็นเทวดาที่ไหน เพราะเราไม่ได้สร้างความเข้มแข็ง เรามาแก้ปัญหาเดิมมากมายที่มีอยู่ ทำกระบวนการใหม่ในการทำงาน ต้องส่งปฏิรูป คนต่อต้านก็จะไปพูดข้างนอก้ประเทศ แต่ยืนยันว่าไม่มีรัฐบาลไหนที่มาจากรัฐประหารมาแล้วทำแบบนี้ เราคิดแบบเดิมไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการปาฐกถาดังกล่าวของพลเอกประยุทธ์ มีการถ่ายทอดสดทางช่อง11 และมีตัวแทนจากองค์การสหประชาชาติ และคณะทูตานุทูตหลายประเทศร่วมรับฟังด้วย