คทช.นำร่องจัดสรรที่ทำกินให้ราษฎร6พื้นที่

คทช.นำร่องจัดสรรที่ทำกินให้ราษฎร 6 พื้นที่ ในเชียงใหม่ นครพนม มุกดาหาร ชุมพร เดินหน้าระยะสองอีก 8 จังหวัด
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้รับทราบและอนุมัติการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค และแนวทางการแก้ไขการจัดการที่ดินทำกินให้ชุมชมตามนโยบายของรัฐบาล ตามที่คณะอนุกรรมการจาก 3 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย เกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับไปดำเนินการในระยะที่ 1 ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557- กุมภาพันธุ์ 2558 โดยกรมป่าไม้ได้จัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่นำร่อง 6 พื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ประกอบไปด้วย ชุมชนบ้านแม่ท่า ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ทา อ.แม่ออน พื้นที่โครงการลุ่มน้ำแม่ออน ตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ อ.ฝาง ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าลุ่มน้ำแม่ฝาง โครงการพัฒนาเบ็ดเสร็จลุ่มน้ำสาขาแม่ปิง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงใหม่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าท่าธาร และป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ตาลและป่าแม่ยุย รวมทั้งสิ้น 53,697 ไร่
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้จัดพื้นที่นิคมเกษตรกรรมทหารผ่านศึก ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมู จ.นครพนม และมุกดาหาร พื้นที่ จ.มุกดาหารใช้พื้นที่โครงการพัฒนาฟื้นฟูป่าไม้บ้านห้วยตาเปอะ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูสีฐาน ส่วนภาคใต้กำหนดให้พื้นที่ที่เหลือจากการขออนุญาตใช้ประโยชน์เพื่อการก่อสร้างสนามบินพาณิชย์ จ.ชุมพร บริเวณพื้นทื่ป่าสงวนแห่งชาติป่าหนองหญ้าไซ และป่าทุ่งวัวแล่น เป็นที่ทำกิน อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการพบว่าที่ดินมีลักษณะเป็นแปลงย่อย กระจัดกระจาย ไม่ติดต่อเป็นผืนเดียว และมีบางส่วนมีชื่อไม่ตรงกับการสำรวจตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 30 มิถุนายน 2541
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทั้งนี้แนวทางแก้ไข กรมป่าไม้ได้วงรูปที่ดินใหม่ให้มีลักษณะเดียวกัน ให้ผู้ว่าฯในฐานะประธาน คทช.จังหวัดตรวจสอบและปรับขอบเขตแผนที่ส่งมอบให้มีวงรอบแปลงที่เดินผืนเดียวกันเพื่อขออนุญาตและส่งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งให้คณะอนุกรรมการจัดการที่ดินดำเนินการต่อไป และให้ตรวจสอบตำแหน่งแปลงที่ดินและรายชื่อผู้ครอบครองที่ดินที่ถูกต้องหรือเป็นทายาทของผู้ครอบครองเดิมควรให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน หากเป็นราษฎรรายใหม่ เนื่องจากการซื้อขายเปลี่ยนมือให้ตรวจสอบคุณสมบัติที่กำหนดไว้ว่าต้องเป็นผู้ยากไร้ไม่มีที่ดินทำกิน มีรายได้ต่อปีไม่เกินสามหมื่นบาทและต้องไม่เป็นการเข้ามาซื้อข้ามเขตหรือถิ่นที่อยู่เดิม หากไม่เข้าหลักเกณฑ์ให้นำที่ดินเข้ากองกลางชุมชน
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นอกจากนี้ คทช.ยังได้อนุมัติให้มีการดำเนินการในระยะที่ 2 เดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2558 ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่เป้าหมาย 8 พื้นที่ 8 จังหวัด ประกอบด้วย กาญจนบุรี ราชบุรี ลำปาง อุตรดิตถ์ เชียงราย พะเยา ยโสธร และอุบลราชธานี เนื้อที่ประมาณ 51,929 ไร่ ซึ่งกรมป่าไม้ได้ส่งข้อมูลให้ คทช.จังหวัดรับไปดำเนินการแล้ว ส่วนในพื้นที่ ส.ป.ก.อนุกรรมการจัดหาที่ดินได้เสนอพื้นที่เป้าหมายประจำปีงบประมาณ 2558 ใน 4 พื้นที่ 4 จังหวัด เนื้อที่ 5,584 ไร่ รองรับราษฎร 824 ราย




